TikTok แจกเครดิต ทำโฆษณา TikTok Acccount ละ 9,500 บาท ถ้าคุณทำสิ่งนี้
TikTok แจกเครดิต ทำโฆษณา TikTok
Acccount ละ 9,500 บาท
ถ้าคุณทำสิ่งนี้
ข่าวดีจ้า ข่าวดี
TikTok แจกเครดิตค่าโฆษณา 9,500 บาท ต่อ 1 บัญชี
เพียงสมัครบัญชีโฆษณา TikTok “แบบ Business”
แล้วทำการ ยืนยันบริษัท ให้สมบูรณ์
หากผ่านการพิจารณา จะได้รับเครดิตค่าโฆษณา 9500 บาทเลยจ้า!!
สำหรับข้อมูลที่คุณต้องกรอกลงไปก็คือ
1.เลขจดทะเบียนบริษัท
2.ชื่อทางกฎหมายของธุรกิจ
3.หมายเลขโทรศัพท์ของบริษัท
4.ชื่อตัวแทนทางกฎหมาย = ชื่อเจ้าของบริษัท (ภาษาอังกฤษ)
ส่วนเอกสารประกอบ ให้เตรียมไว้ดังนี้
ใบอนุญาตดำเนินธุรกิจ, หนังสือรับรองบริษัทหรือบริคณห์สนธิฐ หนึงสือรับรองภาษีหรือหนังสือรับรองการจะทะเบียน VAT (รูปแบบที่รองรับ: jpg, jpeg, png)
หลังจากนั้นให้รอๆๆๆ
ถ้าผ่าน คุณจะได้รับเครดิตค่าโฆษณา 9,500 มาไว้ยิงแอดมันส์ๆ
แต่ยัง ยังไม่พอ
ถ้าคุณเติมเงินไปเท่าไร TikTok จะให้เงินโบนัสกลับมา เท่านั้น
สูงสุด 63,000 บาท
(เคสนี้ ไม่ได้แจกเงินนะครับ มองเป็นการให้เงินเครดิตทำโฆษณานั่นเอง)
ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ธันวาคม 2563
ปล.
งานนี้ทำได้เฉพาะบริษัทนะครับ
ถ้าบุคคลธรรมดา จะไม่ได้รับเครดิตนี้จ้า
ใครทำแล้วได้ผลอย่างไร มาแจ้งกันด้วยนะเออ!!
สรุป
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
4 วิธี หากลุ่มเป้าหมายที่ใช่ ในเฟสบุ๊ค จากลูกค้าเก่า ทำได้แบบนี้นี่เอง
4 วิธี หากลุ่มเป้าหมายที่ใช่ ในเฟสบุ๊ค
จากลูกค้าเก่า ทำได้แบบนี้นี่เอง
มีปัญหาจากทาง inbox ถามมาบ่อยๆว่า
เราจะยิงแอดในเฟสบุ๊ค ให้ตรงกว่าเดิม
ต้องใช้กลุ่มเป้าหมายอะไร?
เคยฟัง คนบอกว่าเอาเบอร์โทร ลูกค้ามาใช้ อันนี้จริงมั้ย?
เพื่อให้คำถามนี้ มีคำตอบ
ผมเลยขอยกมาบอกในหน้าเพจนี้ เพื่อให้ได้อ่านทั่วกันนะครับ
ในบทความนี้
“4 วิธี หากลุ่มเป้าหมายที่ใช่ ในเฟสบุ๊ค
จากลูกค้าเก่า ทำได้แบบนี้นี่เอง”
ปล. คัดและเน้นเฉพาะวิธีการที่ทำได้เลย
วิธีการเหล่านี้ มีชื่อเรียกว่า การทำ Custom Audience นะครับ
หรือชื่อไทย คือ กลุ่มเป้าหมาย กำหนดเอง
1.เบอร์โทร ลูกค้า
ทุกวันนี้ ถ้าขายของ แล้วไม่ได้จัดเก็บข้อมูลลูกค้า
ถือว่า คุณพลาดเก็บข้อมูลที่ดี ไว้ใช้ในวันข้างหน้าแล้ว
ข้อมูลเบอร์โทรนี้ สามารถนำมาสร้างเป็นกลุ่มเป้าหมายได้
เพราะเฟสบุ๊ค จะนำไป จับคู่กับข้อมูล ของลูกค้าในเฟสบุ๊คให้โดยอัตโนมัติ
(คนเราใช้งาน facebook ได้ต้องมี เบอร์โทรศัพท์ เสมอ)
และควรจะระบุไว้ด้วยว่า ลูกค้าแต่ละราย เคยซื้อสินค้าจากเราด้วยเงินเท่าไร?
จากประสบการณ์ การใส่เบอร์โทร แต่ละครั้ง ให้ใส่ครั้งละ 1000-2000 เบอร์ครับ
หรือจะเริ่มจาก 500 เบอร์ขึ้นไป ก็ได้
2.การมีส่วนร่วมกับเพจ
คนที่เข้ามาในเพจของเรา เข้ามากดไลค์ กดแชร์ อินบ๊อกซ์มา หรือ comment กลุ่มคนเหล่านี้ คือคนที่มีโอกาสสูงกว่าคนอื่นๆ
เราเรียกว่าการมีส่วนร่วม หรือ มี engagement กับเพจของเรา
ดึงคนเหล่านี้มาสร้างกลุ่มเป้าหมายได้ครับ
เพียงแต่อาจจะต้องระบุระยะเวลาที่เขา เข้ามามีส่วนร่วมด้วยนะครับ
ถ้าสินค้าที่ต้องพิจารณานานๆ ใช้เวลา ประมาณ 45-60 วัน
ถ้าสินค้า ที่ไม่ต้องคิดนาน ใช้ประมาณ 30 วัน
3.การดู video ของเพจ
ในเฟสบุ๊ค ถ้าเราดูคลิปไหนนานๆ ได้ แสดงว่า เราชอบสิ่งที่อยู่ในคลิป
ถ้าเราไม่ชอบ แค่เห็นก็ปัดทิ้งไปแล้ว
ด้วยเหตุผลนี้เอง จึงทำให้เราคัดคนที่ชอบสินค้าของเราได้ จากการดูคลิปวิดีโอ
เฟสบุ๊คจะเก็บข้อมูล คนดูวิดีโอ ได้หมด
ถ้าเรามีวิดีโอ โฆษณา ยาว 15 วินาที ถ้าคนดูไปเกินครึ่ง หรือ มากกว่า 75%
แสดงว่าสนใจสินค้าตัวนั้นๆ
เราสามารถดึงคนกลุ่มนี้ เอามาไว้ทำการตลาดได้อีกครั้งครับ
4. การเข้ามาในเว็บไซต์
ถ้าคุณมีเว็บไซต์ คนที่เข้ามาในเว็บไซต์ของคุณ
เราสามารถนำมาสร้างเป็นกลุ่มเป้าหมายได้
เพราะคนเหล่านี้ ต้องสนใจ เนื้อหาในเว็บจริงๆ
การจะเก็บข้อมูลคนที่เข้าเว็บไซต์ของเรา ต้องติดตั้ง Pixel เข้าไปด้วย
Pixel คือโค้ดภาษา HTML ที่ใช้จับพฤติกรรมคนเข้ามาในเว็บไซต์ของเรา
ถ้าไม่ติดตั้ง Pixel ในเว็บ เราจะเก็บข้อมูลไม่ได้
ถ้ายังไม่มี ให้ไปติดนะครับ (ขอโปรแกรมเมอร์ช่วย)
ถ้ายังไม่มีเว็บ ไปทำเว็บก่อนครับ 55
พอมีข้อมูลแล้ว เราจะสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมาย ของคนเข้าเว็บไซต์เรา
เพื่อไปทำการตลาดต่ออีกครั้งได้
ทั้งหมดนี้ คือ 4 วิธี หากลุ่มเป้าหมายที่ใช่ในเฟสบุ๊ค
จากข้อมูลลูกค้าเก่า ได้ครับ
สรุป
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
8 เทคนิค เพิ่มคนติดตามใน TikTok ที่ดาวติ๊กตอก เขาทำกัน
8 เทคนิค เพิ่มคนติดตามใน TikTok
ที่ดาวติ๊กตอก เขาทำกัน
แอพมาแรงแซงทางโค้งที่ เจ้าของธุรกิจ เจ้าของแบรนด์ ต้องหันมามองตอนนี้
คงหนีไม่พ้น TikTok
และคำถาม ที่ฮิตแบบสุดๆในทุกวันเกี่ยวกับแอพนี้ก็คือ
จะทำยังไง ให้คนติดตามเราเพิ่ม!
ผมเลยขออาสา รวบรวมเอาข้อสังเกตุที่ account ดังๆ
ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็น ดาว TikTok เขาทำกัน แล้วประสบความสำเร็จในบทความนี้ครับ
“8 เทคนิค เพิ่มคนติดตาม ใน TikTok
ที่ดาวติ๊กตอก เขาทำกัน”
1.มุ่งมั่นสร้างเนื้อหาเพียงด้านเดียว
ช่องดังๆ ที่โด่งดัง จะมีเนื้อหาที่นำเสนอ เพียงแนวทางเดียว
ให้รู้ไปเลยว่า เขาคือใคร ตลก สนุก ขำ เต้น เฮฮา หรือว่า สายความรู้
เลือกให้ได้สักทาง เพื่อให้คนจดจำได้ว่าแบรนด์ของเรา ทำอะไร
2.ร่วมชาเลนจ์ ดังๆ ในบริบทของตัวเราเอง
ในหน้าแรกของ แอพ TikTok จะมีชาเลนจ์ที่คนทำตามกันเยอะมาก มีทั้งการเต้น
การ Cover มากมาย ซึ่งถือเป็นเทรนด์ฮอต ห้ามพลาด
ถ้าคุณทำ แล้วมีคนดูเยอะๆ โอกาสที่โพสต์ของคุณจะกระจายไปในวงกว้างย่อมสูงกว่าปกติ
แต่ถ้าทำแล้ว สามารถพูดในมุมของเราเองได้ จะเจ๋งมาก
เหมือน เอาเพลงเมาคลีล่าสัตว์ มา mix เป็นเพลง EDM ในสไตล์ตัวเอง
ดังนั้นมีอะไรใหม่ๆ รีบทำ แต่ขอให้เข้ากับแนวทางของเรานะครับ
3.ใช้ hashtag ที่ดี เหมาะสมกับช่องของเรา
การใช้ hashtag คือ ประตูที่นำคนใหม่ๆ เข้ามารู้จักเรา
ถ้าเขาชอบ เขาก็จะกดติดตามเราอย่างแน่นอน
ดังนั้นวิเคราะห์ดีๆ ว่าจะใช้ hashtag อะไร 😉
4.สร้าง original content
เนื้อหาที่สร้างขึ้นมา ต้องเป็นสิ่งที่คุณทำขึ้นมาเอง
การไป copy เนื้อหาของคนอื่น เป็นเรื่องง่าย
ดังไว แต่สุดท้าย ไม่มีใครจดจำว่า คุณคือใคร
การสร้างเนื้อหาออกมา แม้คนไม่ดูเยอะในวันแรก
อย่าได้ท้อใจ เพราะดาว TikTok วันแรกๆ ก็ไม่ได้มีคนดูเยอะ
ความตั้งใจ + ความสม่ำเสมอ จะทำให้ไปถึงดวงดาวอย่างแน่นอน
5.สร้างเนื้อหาที่ให้คนไปใช้งานต่อได้
อันนี้ คือที่สุด หากคุณทำได้ มันจะทำให้คุณดังมากกว่าเดิม
ยกตัวอย่างเช่น เสียงพูด เสียงร้องเพลง ที่แปลกหู แปลกตา
อย่างเพลง ไม่ว่างจริงๆ เวอร์ชั่น หยาดพิรุณ / เพลงวิบวับ พร้อมท่าเต้นที่คนทำตาม
หรือเสียงตลกๆ อย่าง “สายป่านอยู่ไหน”
หรือวลีเด็ด “ส้มหยุด” ที่ทำให้ แม่สิตางศุ์ ดังขึ้นมาชั่วข้ามคืน
6.post เนื้อหาเวลาคนใช้งานเยอะๆ
เนื้อหาดีไม่พอ เวลาการโพสต์ก็สำคัญ
ถ้าให้ดี เลือกโพสต์ เวลาที่คนใช้งานเยอะๆ
ถ้าเมืองไทย ช่วงที่คนใช้งานเยอะๆ มีเวลาดูก็คือ 1-3 ทุ่ม
อันนี้ คือใช่เลย
7.เอาเนื้อหาใน TikTok ไปใส่ Social Media อื่นๆที่มีอยู่
ถ้าคุณมี social media อื่นๆ อยู่แล้ว อย่างเพจ twitter instagram การนำ content จาก TikTok ไปใช้ คือไอเดียที่ดี
เพราะว่าทำงาน และ เอาไปใช้ประโยชน์ได้ดี
อย่างผมเอง ก็ใช้ tiktok ทำ content ความรู้ในเวลา 1 นาที
เพื่อสอนคนผ่านเพจ ก็ทำให้ประหยัดเวลา
content ไม่ล้าสมัย (หากไปตัดต่อ video เองเสียเวลาเป็นวัน)
8.ร่วมแจมกับ ผู้ใช้ TikTok คน อื่นๆ บ้าง
หากมีโอกาส ขอให้ไปร่วมแจมกับ TikTok คนอื่นๆ ด้วย
การร่วมกันทำอะไรสักอย่าง จะทำให้คนใหม่ๆ เข้ามาติดตามคุณด้ว
ถือว่า win-win ด้วยกันทั้งคู่
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
เริ่มต้น ขายออนไลน์ เลือกทำช่องทางไหนก่อนดี?
เริ่มต้น ขายออนไลน์
เลือกทำช่องทางไหนก่อนดี?
มีคำถามที่ถามมาทาง inbox บ่อยๆว่า
ตอนนี้ กำลังจะเริ่มต้นทำออนไลน์ แล้วควรเลือกใช้เครื่องมือไหนดี
รวมทั้งผู้ประกอบการหลายท่าน ก็ถามเหมือนกัน
ว่าควรจะเลือกทำอะไรก่อนหลังดี
ผมเลยไปหาคำตอบมาให้ดังนี้ครับ
“เริ่มต้น ขายออนไลน์ เลือกทำช่องทางไหนก่อนดี?”
1.เฟสบุ๊ค
ถ้าเรากำลัง จะเปิดตลาดไปหาคนใหม่ๆ ให้รู้จักเราได้เร็วที่สุด
เครื่องมือที่จะนำคนใหม่ๆมาเจอเราได้เร็วที่สุด นั่นคือ เฟสบุ๊ค
เพราะการเปิดเพจนั้นง่ายที่สุด เพราะเปิดฟรี ยังไม่ต้องจ่ายอะไร คุณก็ทำได้แล้ว
จะโพสต์ content แบบเขียน โพสต์ภาพ หรือจะ Live ก็ทำได้โดยอิสระ
ถ้าทำดีๆ ไม่ต้องยิงแอดทำโฆษณา คนก็จะตามติดเพจคุณอย่างเหนียวแน่น
ถ้าอยากให้คนเห็นมากขึ้น ก็ใช้การทำโฆษณาเป็นเครื่องทุ่นแรง ประหยัดเวลา
และเครื่องมือของเฟสบุ๊ค คนใช้กันแพร่หลาย ดังนั้นจึงมีแหล่งข้อมูลให้ศึกษาเยอะ
ไม่ต้องห่วง
2.Line OA
เมื่อเรามีลูกค้า มาแล้ว การเก็บลูกค้าเดิม เอาไว้ในมือ เป็นเรื่องที่หลายคนมักลืม
เครื่องมือทุ่นแรง ที่ใช้งานได้ดี ณ ตอนนี้ คือ LINE
เพราะคนไทยใช้ LINE ในการสื่อสาร จนเป็นเรื่องปกติแล้ว
แต่ถ้าจะทำธุรกิจจริงจัง ติดต่อคนเยอะๆ และ สื่อสารทีละมากๆ
แนะนำให้ใช้ LINE OA
ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเสียเงิน
เพราะคุณเปิดได้ฟรี และใช้งาน feature ต่างๆ ได้ฟรีแม้ยังไม่ได้จ่ายเงิน
สะสมคนไปเยอะๆ ในช่องทางนี้ พอถึงเวลาที่คุณอยากทำการตลาดกับคนติดตาม
ตอนนั้นค่อยไปเสียเงินค่าแพคเกจรายเดือน
3.youtube
อีกช่องทาง ที่ช่วยสร้างตัวตนให้กับเรา คือ Youtube
เพราะเวลาคนมีปัญหา มักจะเปิด Google หาทางออกก่อน
เนื่องจาก Youtube และ Google เป็นบริษัทเดียวกัน
ดังนั้น โอกาสที่ content จะได้พบเห็น จึงมากกว่า
แต่หมายถึงคุณต้องวิเคราะห์ แล้วทำการบ้านมาเป็นอย่างดี
ว่าลูกค้าของคุณมองหาอะไร ก่อนนำเอาสิ่งนั้นมาทำ Content เพื่อให้อยู่ภายในช่อง youtube ของเรา
บางครั้ง อาจจะให้คนที่เป็น Youtuber มาช่วยพูดแทนตัวคุณเองก็ได้
เวลาคนรู้จักแบรนด์ของคุณผ่านสื่ออื่นๆ แล้วเขามาค้นหาข้อมูลเพิ่มใน google และ youtube
จะสร้างความเชื่อถือให้กับแบรนด์อีกเยอะเลย
4.website
ถ้า Social Media อย่าง เฟสบุ๊ค คือบ้านเช่า ที่มีกฏระเบียบ
website ก็คือ บ้านหลังใหญ่ของคุณ
บ้านที่คุณดูแลความเรียบร้อยได้เอง
กฏระเบียบต่างๆ คุณเป็นผู้สร้างด้วยตัวเอง
เพียงแต่การทำเว็บนั้น ต้องวางแผน และใช้เวลาพอสมควร กว่าจะทำให้มีประสิทธิภาพ
การมีเว็บไซต์ ทำให้คนรู้ว่า คุณมีตัวตน และ ติดต่อมาหาคุณได้อย่างไร
และหากคุณใช้งานเว็บไซต์ร่วมกับการทำ โฆษณาในเฟสบุ๊ค
มีการเก็บสถิติ จะทำให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการของเราได้ดีขึ้น
คนชอบสินค้าตัวไหนมากที่สุด
คนใช้เวลากับเราในหน้าเว็บไหนมากที่สุด
เป็นใคร เพศอะไร วัยไหน มาจากพื้นที่ใด
สถิติเหล่านี้จะช่วยคุณวางแผนทำการตลาด และ ธุรกิจได้ดี
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
4 เรื่องต้องสังเกต เซลเพจ กับ เว็บไซต์ เลือกใช้อะไร มาโฆษณาดี
4 เรื่องต้องสังเกต
เซลเพจ กับ เว็บไซต์
เลือกใช้อะไร มาโฆษณาดี
สำหรับคนที่ลงโฆษณาในเฟสบุ๊คมาสักพัก
อาจจะกำลังจดๆจ้องๆ ที่จะใช้วัตถุประสงค์ คอนเวอร์ชั่น (Conversion) หรือ การเยี่ยมชม (Traffic)
แต่สิ่งที่ต้องเรียนรู้เพิ่มก็คือ
มันต้องมีหน้ารวมข้อมูล สินค้า หรือบริการ
หรือแม้กระทั่ง โฆษณาใน TikTok เอง
ก็จำเป็นต้องใช้หน้ารวมข้อมูลแบบนี้เช่นกัน!
บางคนก็ให้วิ่งไปเว็บไซต์ บางคนก็ให้วิ่งเข้า salepage
แล้วจะเลือกอะไรดีล่ะ
ผมว่าเรื่องนี้น่าสนใจดี เพราะจากประสบการณ์ที่ได้ใช้ ทั้งเว็บไซต์ และ salepage
จึงอยากแชร์เรื่องนี้ ให้ทุกคนได้อ่านกันครับ ใน
“4 เรื่องต้องสังเกต
เซลเพจ กับ เว็บไซต์
เลือกใช้อะไร มาโฆษณาดี”
1.การใช้งาน
ตั้งแต่ที่เข้ามาทำงานในโลกออนไลน์ สิ่งแรกที่ผมได้เจอ ตั้งแต่ 20 ปีก่อน ก็คือเว็บไซต์
หลายครั้งที่มีคนบอกว่า เว็บจะตาย
แต่สุดท้าย มันไม่เคยตาย เพียงแต่คนมีทางเลือกอื่นๆ ให้ใช้มากกว่าเดิม เท่านั้นเอง
ถ้าเราเข้าเว็บไซต์ สิ่งที่ตามมา ก็คือ เมนูไปยังหน้าต่างๆ หน้าอื่นๆ
ถ้าจะซื้อของผ่านเว็บไซต์ ในรูปแบบที่รู้จักกัน ก็ต้องสมัคร สมาชิก / เข้าไปเลือกสินค้า
เข้าไปกดลงตะกร้าสินค้า / แล้วใส่ข้อมูล / แล้วก็จ่ายเงิน / ก่อนจะได้คำสั่งซื้อ แล้วรอรับของ
ขั้นตอนเหล่านี้ หากเป็นคนรุ่นใหม่ คงไม่ใช่เรื่องลำบาก
แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ ที่เพิ่งใช้งาน หากต้องทำเรื่องพวกนี้ อาจจะใช้เวลามาก จนไม่อยากสั่ง
ดังนั้นเพื่อลดเวลาการทำงาน Salepage จึงได้กำเนิดมา เพื่อลดความยุ่งยากเหล่านี้ไป
เพราะเปิดมาปุ๊บ ก็จะเห็นสินค้า ทันที มีคำบรรยาย มีรีวิว มีข้อเสนอ แล้ว จะมีปุ่มไม่กี่แบบ นั่นคือ
สั่งซื้อ หรือ ติดต่อไลน์ ให้เบอร์โทรได้เลย
อะไรก็ได้ ขอให้ง่ายที่สุด
เพราะหน้าที่ของมันคือ การขาย
ถ้าจุดประสงค์ของคุณคือการขาย อย่างเดียว เลือกใช้ salepage
2.ความชำนาญในการใช้เครื่องมือ
ถ้าเราจะสร้างเว็บขึ้นมาด้วยตัวเอง สิ่งที่ต้องเข้าใจ เบื้องต้นคือ
การจด Domain / การเลือก hosting / การทำเว็บ ง่ายสุดคือ wordpress / การเขียนให้ถูกหลัก SEO เพื่อติดอันดับ Google / การปรับปรุงให้แสดงผลเร็ว / การใช้ภาพที่คุณภาพคมชัด แต่ยังแสดงผลเร็ว
แค่เบื้องต้น ก็เยอะแล้ว ยังไม่นับรวมถึงรายละเอียดปลีกย่อย ถ้าจะทำเว็บขายของนะครับ
หากคุณมีทีมงานมากพอ และ มีเป้าหมายระยะยาว การเลือกทำเว็บ เป็นสิ่งที่สมควรลงทุนครับ
แต่หากยังเป็นจุดเริ่มต้น
การเลือกใช้ salepage อาจจะง่ายกว่า
เพราะเครื่องมือใช้งานนั้น สะดวกกว่า
ขอแค่เตรียมข้อมูล ภาพ video ให้พร้อม ก็สามารถเริ่มต้นทำ salepage ออกมาได้แล้ว
โดยไม่ต้องไปเรียนเขียนโค้ดใดๆ เลย
3.ระยะเวลาในการทำ
ถ้าจะทำเว็บไซต์ขึ้นมา เวลาที่คุณจะหมดไป ก็คือ
การคิด concept การออกแบบ การวางโครงสร้างให้ดี
ถ้าคุณมีทีมเยอะ เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา ก็สามารถ ลงมือทำได้เลยครับ
เพราะในระยะยาว ผมก็มองว่าเว็บไซต์ยังมีความน่าเชื่อถือสูง
แต่ถ้าเริ่มต้น
การทำ salepage ขึ้นมาขายของ หรือ บริการสัก 1 หน้า ถือว่าเร็วมาก
ขนาดผมทำ worpdress เป็น ก็ยังเลือกใช้ salepage ในการทำครับ
เพราะใช้เวลาแค่ 20-30 นาที ก็ได้หน้า salepage ที่พร้อมขายของแล้ว
(รวมติดตั้ง code ต่างๆ อย่าง pixels ทั้งฝั่ง เฟสบุ๊ค และ TikTok /google analytics แล้ว)
4.เงินลงทุน
ถ้าคุณเป็นสายพัฒนา มีความชำนาญในการทำเว็บ มีเวลามากพอ
การทำเอง ถือว่าประหยัด มากครับ เพราะสมัยนี้ hosting ที่ดี ราคาถูกลงมามากแล้ว
การจด domain ไม่แพง
ถ้าคุณไม่ถนัดเรื่องเหล่านี้
การใช้ salepage จะมีค่าบริการรายเดือนอยู่แล้วครับ
ค่าบริการ มากน้อยขึ้นกับสิ่งที่คุณจะได้
แต่จะเลือกใช้ของเจ้าไหน ให้ดูลูกค้าที่ใช้บริการของเจ้านั้นๆ มาก่อนครับ
ดูว่าคุณชอบมั้ย หรือ หากเป็นไปได้ มีให้ทดลองใช้ก่อน 7-14 วันก็น่าจะดี
ถ้าชอบก็ซื้อใช้ต่อไป
มองเป็นการลงทุนครับ ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย
เพราะถ้าทำดีๆ กำไรจากการขาย ก็เอามาจ่ายค่าบริการเหล่านี้ได้หมดครับ
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
3 ข้อแตกต่าง เมื่อต้องทำโฆษณา ระหว่าง TikTok ads กับ เฟสบุ๊ค
3 ข้อแตกต่าง เมื่อต้องทำโฆษณา
ระหว่าง TikTok ads กับ เฟสบุ๊ค
เชื่อว่า ตอนนี้หลายคน กำลังสนใจ platform ใหม่ที่ชื่อว่า TikTok
อย่างแน่นอน เพราะมีคนบอกว่า ค่าโฆษณาถูก
คนเล่นเยอะ คนลงโฆษณายังไม่เยอะมาก
อีกหนึ่งคำถามที่ได้มีคนถามผมมาบ่อยๆ ก็คือ
“มันต่างจากการโฆษณาในเฟสบุ๊ค ยังไง?”
เมื่อมีคำถามมา
ผมก็มีคำตอบมาให้ครับ
ขออธิบายให้ฟัง ในบทความนี้
“3 ข้อแตกต่าง เมื่อต้องทำโฆษณา
ระหว่าง TikTok กับ เฟสบุ๊ค”
1.บัญชีหลัก กับการโฆษณา แยกกัน
ปกติ เวลาเราทำโฆษณาใน เฟสบุ๊ค สิ่งที่คุ้นเคยก็คือ
เราสร้างเพจ ขึ้นมา และโฆษณาโดยใช้โพสต์ในเพจนั้น หรือ ทำจากระบบโฆษณาในเฟสบุ๊ค แล้วเชื่อมโยงกันได้
เวลาคนถาม หรือ inbox ก็คุยกันได้เลย ในเพจนั้น
แต่สำหรับ TikTok บัญชีที่เราโพสต์เนื้อหา กับ การโฆษณา จะแยกส่วนกันทำงาน
ตัวที่ทำทำโฆษณา ก็ทำหน้าที่ของตัวเอง แล้วโยนไปยังเว็บไซต์ หรือ Salepage ซึ่งต้องมีจุดเชื่อมโยงมาหา ธุรกิจของเรา ไม่ว่าจะเป็น Line Messenger หรือ เบอร์โทร
2.ต้องมี salepage กับ video เป็นหลัก
ถ้าทำโฆษณาใน เฟสบุ๊ค เรามีเพจ แล้วโพสต์ลงไป ก็สามารถนำโพสต์นั้นไปทำโฆษณาต่อได้
จะใช้ภาพ หรือ วิดีโอ ก็สามารถทำได้หมด
แต่ใน TikTok นั้น จะต้องทำในรูปแบบ Video ความยาว 15 วินาที จนถึง 60 วินาที (1 นาที)
และต้องมี salepage ในการนำเสนอสินค้า และ บริการ เพื่อให้ติดต่อ เรามา
ดังนั้น ทักษะ การทำ video content + salepage จึงจำเป็น
3. TikTok ต้องเติมเงิน ค่าโฆษณาก่อน
หากทำโฆษณาในเฟสบุ๊ค เราทำโฆษณาออกไปก่อน แล้วเมื่อถึงเวลา
ระบบจะมาหักเงินที่เชื่อมบัตรเครดิตเอาไว้ เสมอ
จะเรียกว่า ระบบ Post Paid ก็ได้
แต่สำหรับ TikTok ถ้าจะโฆษณา
เราต้องเอาเงินไปเข้าระบบ ก่อน เพื่อให้ระบบ ตัดเงินไปตามงบที่เรามีอยู่
จะเรียกว่าเป็นแบบ Prepaid ก็ได้ครับ
สรุป
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
5 วัตถุประสงค์ โฆษณาใน TikTok รู้ไว้ก่อนเตรียมไปยิงแอดกัน
5 วัตถุประสงค์ โฆษณาใน TikTok
รู้ไว้ก่อนเตรียมไปยิงแอดกัน
ช่วงนี้แอดแพง
ทุกคนเลยมองหา เครื่องมือใหม่ๆ วิธีการใหม่ๆ
เพื่อลดค่าโฆษณา
ถ้าตอนนี้ คงหนีไม่พ้นแอพที่กำลังมาแรงสุดๆ อย่าง TikTok
อ้อ ไม่ได้เอาไวเต้นอย่างเดียวนะครับ
เพราะสามารถ ไปทำโฆษณาได้
ตอนนี้เริ่มมีหลายๆ คนเอาโฆษณาไปลง ทั้งขายของ ทั้งสร้างแบรนด์เพียบ
ซึ่งแน่นอน ว่าเราๆ ท่านๆ ก็สามารถจะลงได้เช่นกัน
ตอนนี้ คนยังลงไม่เยอะ รีบลงก่อน
แต่ก่อนจะไปลงโฆษณา ให้อ่านตรงนี้ซะก่อน จะได้ไปทำโฆษณา อย่างมั่นใจ ใน
“5 วัตถุประสงค์ โฆษณาใน TikTok
รู้ไว้ก่อนเตรียมไปยิงแอดกัน”
- Reach
แบบนี้ คือ วัตถุประสงค์ ที่เหมาะกับการสร้างการรับรู้ การเข้าถึง ในวงกว้าง เพราะเน้นคนเห็นเยอะๆมากๆ
ถ้าอยากให้คนเห็นเยอะๆ ให้เลือกใช้ตัวนี้ครับ - Traffic
แบบนี้ คือการให้โฆษณาของเรา วิ่งออกไปหา User ที่มีพฤติกรรมชอบกดเข้าดูรายละเอียด โฆษณา (เพราะโฆษณาใน Tiktok นั้น คือ video แต่เนื้อหาทั้งหมด จะถูกเขียนลงในหน้าเว็บ หรือ Salepage) - App install
เนื่องจากคนที่เล่น TikTok ส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มเด็ก วัยรุ่น ดังนั้น ตลาดเกมส์ จึงเลือก TikTok เป็นตัวปล่อยโฆษณาให้คนมา Download App ใครมี application แนววัยรุ่นหรือเด็กๆ ลองมาใช้ได้ครับ - Video Views
วัตถุประสงค์นี้ จะทำให้โฆษณาของเรา ส่งไปหาคนที่มีแนวโน้มจะ ดูคลิปวิดิโอ มากที่สุด เหมือนกับตอนทำ video views ในเฟสบุ๊คเลยครับ - Conversion
เท่สุดๆ กับ วัตถุประสงค์นี้ เฟสบุ๊คมี ของ TikTok ก็มีเหมือนกัน เป็นการทำโฆษณา เพื่อไปหาคนที่มีพฤติกรรม ตามที่เราต้องการ เช่นการกรอกฟอร์ม การกดซื้อของ รวมทั้งการสร้าง Pixel ในหน้าเว็บไซต์ด้วย มีการระบุ Event ไว้หลากหลายเลยทีเดียว
และทั้งหมดนั้น ก็คือ
“5 วัตถุประสงค์ โฆษณาใน TikTok
รู้ไว้ก่อนเตรียมไปยิงแอดกัน”
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
4 สิ่งที่ต้องเตรียมตัว ก่อนเปิดบัญชียิงแอด TIKTOK
4 สิ่งที่ต้องเตรียมตัว
ก่อนเปิดบัญชียิงแอด TIKTOK
ในยุคที่หลายคนเริ่มมองหา ทางเลือกใหม่ๆ ในการโฆษณา
เพราะว่าสื่อเดิม ที่ใช้ เริ่มส่ออาการแพงขึ้นๆ ทุกวัน
และหนึ่งในบรรดาสื่อโฆษณาตัวใหม่ ที่หลายๆ คนกำลังมองหาอยู่ ตอนนี้
ก็คือ TikTok นั่นเอง
เพราะว่าคนไทยรู้จักกันดีแล้ว
เล่นกันเยอะมาก เล่นกันจนจะใช้เวลาเท่าๆ กับเล่น Youtube แล้ว
ดูเพลิน เกินห้ามใจ จะเล่นเบาๆ ก็ปาเข้าไปเป็นชั่วโมง
เอาล่ะ ถ้าตอนนี้ กำลังสนใจ อยากเปิดบัญชียิงแอด Tiktok แล้วล่ะก็ ขอให้เตรียมตัวดังนี้ครับ
1.อีเมล์
การสมัคร บัญชีโฆษณา Tiktok เราจะใช้อีเมล์ในการยืนยันตัวเองด้วย ดังนั้น คุณต้องเตรียมอีเมล์มาสมัครด้วยนะครับ
ใครทำโฆษณาออนไลน์ ต้องมีอีเมล์ อยู่แล้วล่ะ
2.เบอร์โทร
เบอร์โทร แนะนำเป็นเบอร์โทรศัพท์มือถือ นะครับ เพราะจะมีการส่ง code ยืนยันตัว มาให้ทางเบอร์โทรที่คุณสมัครเอาไว้ ดังนั้นจำเป็นมากๆ เลย
3.เว็บไซต์
ถ้าคุณเปิดบัญชีโฆษณาเฟสบุ๊ค เฟสบุ๊คไม่เคยถาม link website แต่ถ้าเปิดบัญชีโฆษณา TikTok เว็บไซต์ หรือ Sale page จำเป็นมากๆ นะครับ
เพราะจะผ่านการพิจารณา หรือไม่ วัดกันตรงนี้เลยทีเดียว
ถ้าไม่มีเว็บไซต์ แนะนำให้เปิด salepage นะครับ และควรเป็น salepage ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราจะขายด้วย เนื่องจากเขาตรวจสอบกันจริงจัง
4.บัตรเครดิต
การชำระเงินของ TikTok นั้น เป็นการเติมเงินใส่ไปล่วงหน้า ก่อนจะยิงแอด ไม่เหมือนกับ ยิงแอดเฟสบุ๊ค ที่ใช้ก่อน แล้วค่อยตัดเงิน
ดังนั้น เตรียมเงินให้ดี คาดการณ์เอาไว้ว่า จะใช้เงินเท่าไร
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
5 ไอเดีย ทำกำไรมากขึ้น จากการยิงแอดเฟสบุ๊คแบบเดิม ที่คุณก็ทำได้
5 ไอเดีย ทำกำไรมากขึ้น
จากการยิงแอดเฟสบุ๊คแบบเดิม
ที่คุณก็ทำได้
.
วันนี้ ไม่ได้มีเทคนิคยิงแอดเทพๆ มาฝาก
แต่มีเทคนิคทำกำไรมากขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งถ้าอ่านแล้ว จะรู้สึกว่า เออ ไม่ได้พิสดารอะไร
เพียงแต่เราไม่ได้คิดทำ เท่านั้น
.
เอาล่ะครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
มาเข้าเรื่องกันเลย!!
.
เทคนิคนี้ หากใคร ที่มีสินค้าประเภทเดียวกันหลายๆแบบ จะดีมาก
1.ตัวไหนขายดี ยิงแอดตัวนั้นเป็นตัวเปิด
ตอนคุณขายสินค้า จะมีสินค้าประมาณ 20% ที่ทำกำไรได้ดี คนชอบซื้อ
ให้เอาสินค้านั้น มาเป็นตัวเปิด ไปให้คนทักเข้ามาซื้อก่อน
เป็นการเรียกแขกเข้ามาในร้าน
เรียกคนเข้ามาก่อน เป็นหลัก!!
2.upsell ด้วยการขายแบบ set
เมื่อเข้ามาแล้ว ลองเสนอขายสินค้า ไปเป็น set เพื่อทำให้ต้นทุนในการปิดการขายนั้นคุ้มค่า
ยกตัวอย่างเช่น ยิงแอด 1 ครั้ง เสียค่าแอด 30 บาท ขายได้ชิ้นเดียว 300 บาท ก็จบไป
แต่ถ้าเรานำเสนอ ไปว่า รับไป 2-3 ชิ้นมั้ย แล้วลูกค้าซื้อ รายได้ ก็เพิ่มมากขึ้น จากค่าแอดตัวเดิม ถ้าลูกค้าไม่เอา เราก็ยังขายได้ 1 ชิ้น เหมือนเดิม
ดีกว่ามั้ยครับ แค่นำเสนอขาย?
3.มีของแถม ส่วนลด ลูกค้ารู้สึกดี
ถ้าลูกค้าซื้อเยอะๆ แล้วเรามีของแถมให้ ลูกค้าจะมีความพยายาม ในการทำให้ยอดได้ตามที่เรากำหนด เพื่อได้ของแถมหรือส่วนลด
เช่น ตอนนี้ซื้อแล้ว 840 ถ้าพี่ซื้อเพิ่มครบ 1000 เดี๋ยวจะแถมอีกตัวไปเลย หรือ ฟรีค่าส่งไปเลย ถ้าลูกค้าไม่เอา ก็แค่ปิดการขายที่ 840 บาท
เพียงเอ่ยปากนำเสนอ ก็มีโอกาสแล้ว ดีมั้ยครับ?
4.เก็บเงินปลายทาง
การซื้อขายผ่านออนไลน์ระหว่างเรากับลูกค้าครั้งแรก
การโอนเงิน ดูเป็นเรื่องยากลำบาก เหลือเกิน
ดังนั้น ถ้าให้เก็บเงินปลายทาง โอกาสปิดการขายจะเพิ่มมากขึ้น
เพราะลูกค้าสบายใจ ว่าจะไม่โดนโกง
เพียงแต่คุณต้องคำนวณค่าธรรมเนียมมของการเก็บเงินปลายทางด้วย เพราะเขาจะคิดเป็น % จากราคาสินค้า
5.ทักทายไปหาลูกค้าเป็นระยะ เมื่อเวลาเหมาะสม
การขายที่ดีที่สุด คือการขายให้ลูกค้าเก่า
การกลับไปทักทายเป็นระยะ ในเวลาที่เหมาะสมกับลูกค้า
มักจะเกิดยอดขายเสมอ
เช่นเรารู้ว่า เขาใช้สินค้าตัวนี้ แล้วจะหมดภายใน 1 เดือน
อีก 1 เดือน เราก็เข้าไปทักทาย สอบถาม ว่าสินค้าดีมั้ย ใช้เป็นไงบ้าง
แบบทักทายกันปกติ
ถ้าลูกค้าประทับใจสินค้าของคุณ
โอกาสแบบนี้ สามารถนำพาไปสู่การปิดการขายได้ง่ายๆ
ดีมั้ยครับ ไม่ต้องยิงแอดด้วย!!
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
สูตรลับเรียกลูกค้า แม้ว่า ไม่ได้ยิงแอด! รู้แล้วเอาไปทำตามได้เลย!
สูตรลับเรียกลูกค้า แม้ว่า ไม่ได้ยิงแอด!
รู้แล้วเอาไปทำตามได้เลย!
เหนือฟ้ายังมีฟ้า
เหนือยิงแอด คือ ไม่ต้องยิงแอด
ฟังแล้วก็เหมือนโม้นะครับ
แต่ก็เป็นความจริงไปแล้ว!!
สูตรลับนี้ ผมใช้มาแล้ว กับหลายธุรกิจ
ซึ่งได้ผลดี มีลูกค้าใหม่ๆ เข้ามา แม้ว่า ไม่ได้ยิงแอด ทำโฆษณาเลยก็ตาม
- คนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
- คนตัดสินใจซื้อได้เร็วกว่ายิงแอด
อยากรู้หรือยังครับ
ถ้าอยากรู้แล้วตามมาได้เลย
ในบทความนี้!!
“สูตรลับเรียกลูกค้า แม้ว่า ไม่ได้ยิงแอด!
รู้แล้วเอาไปทำตามได้เลย!”
ก่อนที่จะเข้าไปอ่านบทความนี้
- ถ้าใครทำธุรกิจแบบมีหน้าร้าน ร้านอาหาร คาเฟ่ งานบริการ เทคนิคนี้ จะช่วยให้คุณมียอดขายเห็นผลมากขึ้นครับ
- ถ้าใครทำธุรกิจ ที่เป็นสินค้า เป็นชิ้นๆ เทคนิคนี้ อาจจะให้ผลช้า แนะนำให้ใช้เป็นเทคนิคเสริมครับ
ไม่ให้เสียเวลา ก็มาเลยครับ
1.สร้างธุรกิจบนแผนที่ Google
สูตรลับของเรา ครั้งนี้ มาจากแนวคิดของลูกค้า หรือ คนที่กำลังแก้ปัญหา
ส่วนใหญ่เขาจะใช้ Google ในการตอบคำถามให้ตัวเอง
ถ้าเราติดอันดับการค้นหาในลำดับต้นๆ โอกาส
ก็จะมากกว่าใช่มั้ยครับ
บางคนเพื่อความเร็ว ก็ไปซื้อโฆษณา Google ให้ติดเร็วๆ แบบนั้นก็ดี
บางคนทำ content ลงในเว็บ แบบนี้ มั่นคง แต่ช้าหน่อย
แต่สำหรับสูตรนี้ แนะนำให้ทำข้อมูลของคุณลง ใน แผนที่ Google Maps ครับ
ซึ่งทำได้เร็ว และ ติดง่ายมาก!!
ลงข้อมูลอย่างเดียว ไม่พอ จะต้องทำการยืนยันธุรกิจด้วยการทำ Google Mybusiness ครับ
เพราะหากคุณยืนยันแล้ว เราจะสามารถ ไปสู่ขั้นตอนต่อไป ของการทำสูตรลับนี้ได้
จากประสบการณ์ การทำ Google Mybuisness
แนะนำให้สร้าง ธุรกิจบนแผนที่ แล้วค่อยไปยืนยัน ใน Google My Business นะครับ
เพื่อให้ลูกค้าเห็นธุรกิจของเราในแผนที่เสียก่อน
ขั้นตอน การยืนยันธุรกิจ ใช้เวลาพอสมควรนะครับ
เพราะทาง Google จะส่งรหัสไปรษณีย์จากอเมริกา มาให้เรา
แต่บางคน ก็สามารถยืนยันได้เลย จากเบอร์โทรศัพท์ ถ้าแบบนี้ ก็ง่ายเลยครับ
2.การตั้งชื่อ ธุรกิจด้วย คำค้นหา และ ชื่อแบรนด์
เมื่อเราทำการยืนยันธุรกิจใน Google Business
ความสามารถในการ จัดการข้อมูลจะเพิ่มมากขึ้น
สิ่งแรกที่ควรปรับก็คือ ชื่อ Business นั่นเอง
ชื่อที่ดีนั้น ควรมาจาก “คำค้นหา” ยอดนิยมเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ
คำที่ดี ควรเจาะจง ถึงประเภทกิจการ หรือ บริการที่เขากำลังหา
หากเป็นอู่รถยนต์ คำค้นหาคือ “ซ่อมรถ” “อู่รถ”
หากเป็นร้านอาหาร คำค้นหาคือ “ร้านก๋วยเตี๋ยว” “ร้านกาแฟ”
อาจจะมี ชื่อสถานที่ ทำให้คนตัดสินใจง่ายขึ้น ในการไปใช้บริการ
หลังจากนั้น เสริมไปด้วยชื่อแบรนด์ของคุณเช่น
“ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ นายแดง โชคชัยสี่”
คนมองหาก๋วยเตี๋ยวเนื้อ แถว โชคชัยสี่ ก็มีโอกาสเจอเราได้มากขึ้น
3.การอัพเดทข้อมูล ให้ครบถ้วน
เมื่อเรามีข้อมูลใน Google Business แล้ว ต้องปรับปรุงข้อมูลให้ครบถ้วน
เพราะข้อมูลที่ละเอียด จะอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ตัดสินใจ หรือ เดินทางมาใช้บริการเราได้ง่ายขึ้น
เช่น เวลาเปิดปิด / บริการของเราที่มีอยู่ / พิกัดของของสถานประกอบการ / ข้อมูลการเดินทางไป
สำคัญที่สุด คือ เบอร์โทรติดต่อ ควรง่าย
มีเว็บไซต์ต้อง ใส่ url ให้ถูกต้องชัดเจน
4.การโพสต์อย่างสม่ำเสมอ
เมื่ออัพเดทข้อมูลต่างๆ ภายใน Google Business ไปหมดแล้ว
หน้าที่ต่อไป ก็คือ การโพสต์อย่างสม่ำเสมอ
เพราะคนมักตัดสินว่าธุรกิจนั้น ยังเปิดอยู่ปกติ จากการ update เสมอ
ถ้าทำ Google Business แล้วให้คนมาอ่าน มา search อย่างเดียว
หากคุณเป็นร้านดังๆ ที่ไม่แคร์ใคร ก็ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอยากให้แบรนด์ของเรา เป็นที่จดจำ และสดใหม่เสมอ
การโพสต์ ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ลูกค้าใหม่ ตัดสินใจมาใช้บริการที่ร้านของเราได้ง่ายขึ้น
สรุป
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook