ยิงแอด Facebook แล้วไม่ดู Report เหมือนเอาเงินไปโยนทิ้ง! รวมตัวชี้วัด ที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้จัก ถ้าไม่อยากยิงแอดขาดทุน
การดู Report Facebook เป็นเรื่องสำคัญมากกว่าที่เราคิด!!
การทำโฆษณา หรือ การยิงแอดนั้น คือการนำพา Content ที่เราพูดถึงสินค้า และบริการ ออกไปหากลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง
.
การยิงแอด คือต้นทุนในธุรกิจของเรา ถ้าเราลงมือทำอย่างเดียว แต่ไม่ดู Report Facebook เลย ก็เหมือนกับการเอาเงินไปโยนทิ้ง ไม่มีประโยชน์อะไร
.
พี่นุกเลย ขอแชร์ ความหมายของตัวชี้วัด ในการยิงแอด Facebook มาให้ครับ
เพื่อนำไปปรับปรุงในการยิงแอด ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
1.CPM
ย่อมาจาก Cost per mille หรือ ค่าใช้จ่ายต่อการแสดงผล 1000 ครั้ง ขึ้นอยู่กับ การแข่งขันของอุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน เช่น skincare มีการแข่งขันสูง CPM ก็สูงตาม
กับอีกแบบหนึ่ง ก็คือ วัตถุประสงค์ไหนที่คนใช้กันเยอะ ก็ต้องไปแข่งกันเยอะ จึงทำให้ค่าแอดแพง ยกตัวอย่างเช่น คนไทย ยิงแอดทักข้อความ ด้วยภาพนิ่ง เยอะ ดังนั้น ราคาจึงสูง
.
แต่ถ้าทางใช้ Reels ในการยิงแอด มันจะได้ CPM ที่ถูกกว่า เพราะคนทำน้อย
.
พอเห็นภาพหรือยังครับ?
2. Impression
การแสดงผลของโฆษณา อันนี้ เป็นตัวชี้วัดที่ง่าย ที่สุด การมองเห็นจะเกิดขึ้นต่อเมื่อ โฆษณาของเราทำงานปกติ ถ้าไม่มี Impression แสดงว่า กลุ่มเป้าหมายของเรา อาจจะแคบเกินไป หรือ โฆษณาไม่ผ่านการอนุมัติ นั่นเอง
3.CTR
ปกติ เวลาเราทำโฆษณา ก็ต้องมีการกดคลิก Banner หรือ Content อยู่แล้ว แต่ถ้าเอาแต่จำนวนคลิก มาวัดผล เปรียบเทียบกัน ก็อาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์
.
ดังนั้น ตัวชี้วัด แบบ CTR จึงเข้ามาช่วยตัดสิน เพราะ CTR ย่อมาจาก Click Through Rate (อัตราส่วนการคลิกผ่าน) มันคือการเอา จำนวนคลิก หารด้วยการแสดงผลของโฆษณา
.
ถ้า CTR สูง แสดงว่า โฆษณานั้นน่าสนใจจนคนคลิก แต่ถ้า CTR ต่ำ แสดงว่า โฆษณาไม่น่าสนใจเลย ต้องไปปรับปรุงนะครับ
.
4. ต้นทุนต่อการซื้อ Cost per Purchase
หากเป็นเมื่อก่อน เวลายิงแอด เรามักจะมาโชว์ ต้นทุนต่อการทักแชท ที่ถูกแบบสุดๆ ใครทำได้ราคาถูก ก็จะภูมิใจ แต่จริงๆแล้ว เราควรจะวัด ต้นทุนต่อการซื้อดีกว่า
เพราะมันบ่งบอกว่า มีคนซื้อสินค้าของเราจริงๆ
.
5. ค่า Conversion การซื้อ
นี่คือตัวชี้วัด ที่เราควรคิดถึงมากที่สุด เพราะมันคือ ยอดขายที่ลูกค้าชำระเงินให้กับเรามา ถ้าอยากจะเห็น ค่า Conversion การซื้อใน Report
.
ทุกครั้งที่เรารับยอดจากลูกค้าผ่านทาง inbox ต้องทำการ ใส่ยอดเงินให้ถูกต้องตามจำนวนที่ลูกค้าโอนมา แล้วกด Mark As paid ด้วย เพื่อเป็นการยืนยันการชำระเงิน
.
6.ROAS
ค่านี้ คือตัวชี้วัดว่า เราโฆษณาของเรานั้น ผ่านจุดคุ้มทุนหรือยัง? คำว่า ROAS นั้นย่อมาจาก Return on Ads Spend หรือ ผลตอบแทนต่อการทำโฆษณานั่นเอง
.
ไม่มีค่าตายตัวว่า ต้องเป็นเท่าไร แต่ยิ่งมาก คือ ยิ่งดี
สูตรของมันก็คือ เอายอดขาย หารด้วยค่าโฆษณา นั่นเอง
.
แต่ถ้าใครอยากรู้ว่า ROAS เท่าไหร ถึงจะเป็นจุดที่คุ้มทุน พี่นุก แนะนำให้ทำแบบนี้ครับ
.
เอา ราคาขาย-(ต้นทุนสินค้า+ค่ากล่อง+ค่าขนส่ง) ได้เท่าไร ให้เอามา หาร 2 จะได้ เป็นต้นทุนต่อการซื้อ ที่เรายังได้กำไรอยู่
.
ยกตัวอย่างเช่น
ราคาขาย = 290
ต้นทุน = 60
ค่ากล่อง = 5
ค่าขนส่ง = 30
.
ต้นทุนต่อการซื้อที่เหมาะสม = ((290)-(60+5+30) / 2) = 97.5 บาท
.
ดังนั้น ROAS = 290/97.5 = 2.97
หากเรายิงแอด แล้ว ROAS มากกว่า 2.97 ก็แสดงว่าผ่านเกณฑ์ที่น่าพอใจ
.
เป็นยังไงบ้างครับ กับการอ่านค่า Report Facebook ลองเอาไปใช้กันดูนะครับ
.
แต่.. ถ้าใครอ่านแล้ว อยากจะรู้เพิ่มมากกว่านี้อีก
พี่นุก มีคอร์สออนไลน์ Facebook Masterclass 2024
.
คอร์สเดียวจบ ทั้งเรื่อง Content + การยิงแอด Update 2024
.
สนใจอยากเรียน ทักไลน์ @digitalnookacademy ได้เลยนะครับ
ขายดีกว่าเดิม 10 เท่า ยิงแอดง่าย แจกไอเดีย 30 สินค้าขายดี ช่วงหน้าร้อน ด้วย AI
ขายดีกว่าเดิม 10 เท่า ยิงแอดง่าย เพราะรู้จักสินค้ากระแสก่อนกาล แจกไอเดีย 30 สินค้าขายดี ช่วงหน้าร้อน ด้วย AI
ถ้าเราอยากขายดี ในช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะ platform ไหนก็ตาม
คุณคิดว่า เราต้องให้ความสำคัญ กับอะไรก่อน?
.
สินค้า / Content / ยิงแอด
.
คำตอบ ก็คือ สินค้า
.
และสินค้าที่ทำให้เรา ขายดีได้ ต้องเป็นสินค้ากระแส นั่นเอง
ข้อดี คือ มันขายง่าย ขายเร็ว ข้อด้อย คือ ต้องรีบขายก่อนหมดกระแสความนิยม
.
จะดีกว่า มั้ย ถ้าเรารู้ว่า สินค้าตัวไหน ที่มันจะปังแบบสุดๆ ในช่วงเทศกาล หรือ ฤดูกาล
ถ้าเราขายของมาหลายปี ก็จะจบบันทึกเอาไว้ พอรอบใหม่มาถึง ก็จะเอามาขาย
แต่ถ้าเราไม่เคยเก็บสถิติ มาเลยล่ะ
.
การใช้ AI คือ ทางแก้ปัญหาที่ดีและเร็วที่สุด
พี่นุกเลยขอแชร์เทคนิค การใช้ AI เพื่อหาสินค้าขายดีมาให้อ่านแบบนี้ครับ
.
สินค้าแก้ปัญหายอดนิยมในช่วงหน้าร้อน 30 อย่าง พร้อมเหตุผลที่ต้องซื้อ มีดังนี้
1.พัดลมไอเย็น – ระบายความร้อนและทำให้อากาศเย็นสบาย เหมาะใช้ในบ้าน/สำนักงาน
2.เครื่องปรับอากาศ – ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น สร้างความสบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.ผ้าเช็ดตัวดูดซับน้ำดี – ดูดซับเหงื่อและความชื้นหลังอาบน้ำได้รวดเร็ว
4.เสื้อผ้ากิจกรรมกลางแจ้ง – ระบายอากาศ ดูดซับเหงื่อ เนื้อผ้าบางเบาสวมใส่สบาย
5.แว่นกันแดด – ป้องกันแสงแดดจ้าและรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อดวงตา
6.ครีมกันแดด – ป้องกันผิวจากแสงแดด รังสียูวี ลดเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง
7.ขวดน้ำพกพา – เก็บน้ำดื่มไว้ดับกระหายและชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสีย
8.พัดลมมือถือ – พัดลมพกพาสะดวก ช่วยระบายความร้อนขณะอยู่นอกบ้าน
9.ร่มกันแดด – ป้องกันแสงแดดและรังสียูวีเมื่ออยู่กลางแจ้ง
10.ผ้าเย็น – วัสดุพิเศษดูดความชื้น ช่วยระบายความร้อนและให้ความรู้สึกเย็นสบาย
11.กระติกน้ำร้อน/เย็น – เก็บรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่ม ดื่มน้ำเย็นสดชื่นตลอดวัน
12.เสื้อโปร่งสีอ่อน – ผ้าบางเบา ปล่อยอากาศถ่ายเท ดูดซับเหงื่อได้ดี
13.พัดลมตั้งพื้น/โต๊ะ – ระบายความร้อน กระจายลมเย็น ปรับทิศทางลมได้
14.รองเท้าแตะ/ผ้าใบ – สวมใส่สบาย ระบายอากาศ เหมาะใส่หน้าร้อน
15.หมวกกันแดด – ป้องกันแสงแดด รังสียูวี ที่ส่องถึงหน้าและศีรษะ
16.พับร้อนรถยนต์ – กรองแสงแดดและลดความร้อนภายในรถ
17.ตู้เย็นพกพาสำหรับรถ – เก็บรักษาความเย็นของอาหารและเครื่องดื่มขณะเดินทางไกล
18.พัดลมพกพาชาร์จได้ – ใช้งานได้ทั้งในบ้านและในรถ ระบายความร้อนสะดวก
19.ถุงน้ำแข็งเจลรักษาอุณหภูมิ – รักษาอุณหภูมิของสิ่งที่บรรจุ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม
20.ม่านกันแดด/บังแสง – กรองแสงแดด ป้องกันความร้อนเข้าบ้าน/สำนักงาน
21.เครื่องทำน้ำแข็ง – ผลิตน้ำแข็งเพียงพอสำหรับดื่มในช่วงร้อน
22.เครื่องดื่มเกลือแร่ – ชดเชยเกลือแร่ที่สูญเสียจากการออกกำลังกายหรือเหงื่อออกมาก
23.ถุงปัสสาวะชนิดทนร้อน – สามารถเก็บปัสสาวะไว้ได้ในที่ร้อนโดยไม่รั่วซึม
24.กระเป๋าและถุงผ้าอย่างดี – ป้องกันสิ่งของจากเหงื่อและความชื้นในหน้าร้อน
25.กางเกงขาสั้น/กระโปรงสั้น – ช่วยระบายอากาศและไม่ร้อนในช่วงอากาศร้อน
26.แพรกลางแจ้ง – ให้ร่มเงาจากแดด เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงร้อน
27.เตียงผ้าใบแบบสนาม – เบาสะดวกต่อการพกพา นอนได้แม้กลางแจ้ง
28.พลาสติกรองกันแดด – คลุมรถเพื่อกันแดดและป้องกันผนังจากความร้อน
29.ขี้ผึ้งป้องกันแมลง – ป้องกันแมลงรบกวนในช่วงกิจกรรมกลางแจ้ง
30.เสื่อรองนั่งกันร้อน – นั่งได้สบายแม้บนพื้นที่ร้อนจากแสงแดด
ไอเดียดีๆ แบบนี้ พี่นุกคิดออกมาได้ใน 10 วินาที ด้วยการใช้ Cluad.ai
และใช้คำสั่ง (Prompt) ที่ว่า “ขอสินค้าแก้ปัญหา ยอดนิยม ในช่วงหน้าร้อน 30 อย่าง พร้อม เหตุผลที่ต้องซื้อ”
ถ้าสังเกตให้ดีๆ จะพบว่า
คำพูด หรือ ชื่อสินค้า ประมาณ 5 ตัว มันฟังดูแปลกๆ ใช่มั้ยครับ
นั่นเป็นเพราะว่า พี่นุก ใช้ AI มาช่วยคิดนั่นเอง
ดังนั้น เมื่อเรา เจอสิ่งที่มันแปลก หรือ ประหลาด ก็มานั่งวิเคราะห์ ว่าใช่ หรือ ไม่ (ไม่ใช่ ก็เอาออก) เท่านั้นครับ
นี่เป็นเทคนิคง่ายๆ ในการใช้ AI เพื่อหาไอเดียสินค้า ยอดนิยมในช่วงหน้าร้าน ด้วยเวลาสั้นๆ
พอเรารู้ว่า สินค้า และ เหตุผลที่ต้องซื้อ ก็เอาข้อมูลนี้ ไปให้ claud.ai ช่วยทำเนื้อหาโพสต์ขายต่อได้อีก
ถ้าใครอยากรู้ พิมพ์คำว่า “อยากรู้”
พี่นุก จะมาโพสต์ เทคนิค “ทำโพสต์ขาย จากสินค้า” ให้อ่าน และเอาไปใช้งานกันได้เลย
10 เทคนิค วางแผน ยิงแอด TikTok ให้มียอดขาย
ยิงแอดเป็น กับ ยิงแอดได้ ต่างกัน!
สำหรับใครที่ ยิงแอด TikTok มาสักระยะ แล้วอยากเรียนรู้ หรือ ลงลึกไปมากกว่าที่เป็นอยู่
พี่นุก มี 10 เทคนิค มาแนะนำให้ไปทำตามกันได้ ดังนี้ครับ
1.วางแผนงบประมาณเป็นส่วนๆ
ก่อนจะยิงแอด TikTok อยากให้เรามองภาพใหญ่ก่อนจะลงมือลุย แบบนี้ครับ
2 เดือนแรก
- ใช้งบกับ การสร้าง awareness 60% ยอดขาย 40%
- ใช้งบจ้าง influencer มาทำคลิปแนะนำสินค้า แล้วขอให้ Gencode เพื่อนำมายิงแอดแบบ Awareness ด้วย
2 เดือนต่อมา
ใช้งบกับ awareness 40% ยอดขาย 40% Retarget 20%
ทั้งนี้ เพื่อให้คนรู้จักสินค้าของเราเสียก่อน จึงจะมีโอกาสซื้อได้
2. content ต้องครบทุก Funnel
การทำ content ลงใน TikTok จะเป็นตัวนำพากลุ่มคนที่สนใจ มาหาเราได้ ดังนั้น ต้องมีทั้ง Content เพื่อสร้างการรับรู้ / พิจารณา และ ตัดสินใจ
- การสร้างการรับรู้ : เนื้อหาจะเกี่ยวกับ เรื่องที่กลุ่มเป้าหมายของเรากำลังสนใจ เป็นได้ทั้งความรู้ และสิ่งที่เขาสนใจ อาจจะดึงความสนใจด้วยการ จี้ปัญหา และ จุดเจ็บ ให้คนได้ตระหนัก ว่าปัญหาของเขาต้องได้รับการแก้ไข
- พิจารณา : เนื้อหา จะเกี่ยวกับ สินค้า หรือบริการของเรา ว่าแก้ปัญหาของเขาได้อย่างไร รวมทั้งแตกต่างจากคนอื่นๆ ยังไง
- ตัดสินใจ : เนื้อหา จะเป็นการเร่งให้คนตัดสินใจซื้อ ด้วยโปรโมชั่น ข้อเสนอที่น่าสนใจ จำนวนจำกัด เช่น 30 คนแรก ได้ราคาพิเศษ หรือ ต้องรีบซื้อมาใช้ ก่อนที่สุขภาพของคุณจะพังไปมากกว่านี้
3.ยิง Awarenesss เพื่อทำให้คนรู้จัก
เวลาพูดเรื่องการยิงแอดแบบนี้ หลายคนไม่ชอบ เพราะ ไม่ได้ยอดขาย ทำไปทำไม?
แต่ขอบอกไว้เลย ว่าคนเราจะซื้อ สินค้าอะไรสักอย่าง จะต้องเคยเห็นมาก่อนประมาณ 4 ครั้งเป็นอย่างต่ำ
ซึ่งการยิง Awareness จะเป็นการนำส่งโฆษณาของเรา แบบกำหนดความถี่ได้ ว่าต้องการให้เห็นกี่ครั้ง ภายในระยะเวลาที่กำหนด
เช่น 4 ครั้งใน 1 วัน หรือ 1 ครั้งใน 3 วัน โฆษณาแบบนี้ทำได้ และราคาไม่แพง
ตอนนี้ อยู่ที่ CPM ละ 8-14 บาท เท่านั้นเองครับ
4. ยิง Video view เพื่อเก็บสะสมฐานคนที่ชอบ
การยิงแอด Video View ไม่ได้ทำ เพื่อให้คลิปของเรา มีคนดูเยอะขึ้นอย่างเดียว แต่มันหมายถึง การเก็บสะสมข้อมูล Audience ที่มีพฤติกรรม ดูคลิปวิดีโอของเรานานๆ เพราะคนที่ดูคลิปนานๆ แสดงว่าสนใจเนื้อหาในคลิปนั้นๆ
เราเก็บเอาไว้ เพื่อ Retarget กลับไปหาได้ดีเลยครับ
5. ยิง Follower เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ถ้าช่อง TikTok ของเรา ยังมีคนติดตามน้อยอยู่ การยิงแอดเพิ่ม Follower เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน แม้ยอดวิวของคลิป จะไม่ขึ้นกับจำนวน Follower เลยก็ตาม แต่ฐานแฟนที่มากกว่า จะได้รับความเชื่อถือมากกว่า
แต่ทั้งนี้ ต้องทำคลิปดึงคนให้ถูกกลุ่มด้วย ไม่ใช่จะเอาแต่จำนวนอย่างเดียว เพราะถ้าดึงผิดกลุ่มเป้าหมาย จะเป็นผลเสียมากกว่าผลดีในอนาคต
6.ยิง Traffic เพื่อให้คนรู้จักสินค้า
การยิงแอดแบบ Traffic มีประโยชน์ ในการส่งคนให้ไปดูเนื้อหา เกี่ยวกับสินค้าของเรา ใน Landing Page ได้ดี ค่าใช้จ่ายจะถูกกว่า การส่งคนเข้า Landing Page ด้วยวัตถุประสงค์ Conversion
7. ยิงเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ เพื่อหาคนซื้อ
ถ้าใครสร้าง TikTok Shop เอาไว้ การยิงแอดเพื่อหาคนซื้อ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเราวัดผลได้จากการ Report ได้แบบง่ายๆ แต่ต้องเลือก “เป้าหมายการเพิ่มประสิทธิภาพ” ให้เป็นการซื้อ หรือ รายได้รวม จะวัดผลได้ง่าย
เพราะมีทั้ง ต้นทุนต่อการซื้อ และ ROAS (Return on Ads Spend) มาให้ดูใน Report ทำให้เรา ตัดสินใจได้ง่ายว่าจะปรับโฆษณาต่อไปอย่างไร หรือ สเกลแอดให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยอ้างอิงจาก Data ไม่ได้มโนนึกเอาเอง ว่ามันดี!
8. ดู Report ให้เป็น
การยิงแอด ที่ไม่ได้ดู Report ก็เหมือนการใช้เงิน โดยไม่ดูผลประกอบการ ดังนั้น ควรใส่ใจ และดู Report ให้เป็น
นอกเหนือจากค่ามาตราฐานอย่าง CPM / CTR / CPC แล้ว สิ่งที่ควรเข้าใจอีก 3 ค่าเบื้องต้น ก็คือ
CPA : Cost per action อันนี หมายถึงค่าใช้จ่ายต่อการทำให้บรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้
CVR : Conversion Rate หมายถึง อัตรส่วนของการเปลี่ยนคนที่เข้ามาในหน้า Landing Page ให้บรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้ หากเป็น วัตถุประสงค์ การเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ ก็หมายถึง อัตราส่วนของคนที่เข้ามาในหน้า Landing Page แล้วซื้อสำเร็จ
เช่น เข้ามาดูหน้า Landing page 100 คน แต่มีคนซื้อ 8 คน แสดงว่า Conversion Rate = 8%
ROAS : Return on Ads Spend หมายถึง อัตราส่วนของยอดขาย ต่อ ค่าโฆษณา ยกตัวอย่างเช่น ยิงแอด 200 บาท ได้ยอดขาย 2000 บาท แสดงว่า ROAS = 2000/200 = 10 (สูงมาก)
ตัวเลข ROAS จะเป็นการบ่งชี้ว่า โฆษณาตัวนั้น ได้ผลดีมั้ย ตัวเลขยิ่งมากยิ่งดี แต่หากเท่ากับ หรือน้อยกว่า 1 อันนี้แสดงว่า ขาดทุนแล้ว ให้หยุดยิงไปเลย
9. ปรับ Content จากสิ่งที่เรายิงแอดไปแล้ว
เมื่อเราดู Report เป็น หากเราพบว่า โฆษณาชิ้นไหนทำงานได้ดี แสดงว่า แนวทางของคลิปนั้น เหมาะกับการขายมาก ให้ใช้เป็นแนวทางในการทำคลิปอื่นๆ มายิงแอดต่อ เพราะ อายุขัยของคลิปใน TikTok นั้น จะทำงานได้ดี ในช่วง 2 สัปดาห์แรก หลังจากนั้น จะเริ่มอืดๆ
แต่ถ้าโฆษณาตัวไหนทำงานไม่ดี ให้เราจำเอาไว้ว่า อย่าทำแบบนี้อีก เพราะเอามายิง ยังไงก็เปลืองเงิน
10.สเกลแอดให้มากขึ้น
เมื่อ Report บ่งบอกว่า โฆษณาชิ้นนี้ดี ทำเงินให้กับเรา ให้เพิ่มงบประมาณ ลงไป ครั้งละไม่เกิน 25% แล้วดูผลภายใน 1-2 วัน ถ้าดี ก็เพิ่มงบต่อได้
หรือจะเป็นการ Copy ชุดโฆษณาที่ทำงานดีนั้นอีก ด้วยงบประมาณเดิม หรือมากกว่าเดิมก็ได้
ทั้งหมดนี้ คือ 10 เทคนิค วางแผนยิงแอด TikTok ยังไงให้มียอดขาย เอาไปทำตามกันได้เลย
แต่ถ้า..คุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ยังไม่เข้าใจ หรืออยากได้แนวทางที่เจาะลึก ละเอียดไปมากกว่านี้
พี่นุกมี
- คอร์สออนไลน์ สำหรับคนที่มีเวลา เรียนรู้ด้วยตัวเอง ผ่านคลิปวิดีโอ ในเว็บไซต์
- คอร์ส Private : สำหรับคุณและทีมงาน มาเรียนรู้ด้วยกัน ด้วย Case Study และ แนวทางการยิงแอดที่พี่นุกจะวิเคราะห์ มาให้ก่อนเรียนเสมอ
สนใจแบบไหน ทักไลน์มาได้ที่ @digitalnookacademy ได้เลยครับ
10 เทคนิค เริ่มต้นขายรถยนต์ใน TikTok ยังไง ให้ขายได้
คนที่ทำ ธุรกิจขายรถยนต์ ปี 2023 ที่กำลังสงสัยว่า TikTok นั้นขายรถยนต์ ได้จริงหรือเปล่า?
ขายรถยนต์ใน TikTok ทำได้มั้ย?
เพราะตอนนี้ ทำช่องอยู่ ทำคลิปลงทุกวัน แต่ก็ยังขายไม่ได้
.
มันเป็นเพราะอะไร ไม่มีคนซื้อเหรอ? หรือชั้นทำอะไรไม่ถูก!
.
ถ้าคุณกำลังเจอสถานการณ์นี้อยู่ พี่นุก มีเทคนิค มาแนะนำให้คุณไปปรับใช้ทำตามกันแบบนี้ครับ
.
1.ตั้งเป้าหมายช่อง และ กลุ่มคนติตตาม
เช็คเสียก่อน ว่า คุณอยากได้ลูกค้าแบบไหน เพราะว่า ธุรกิจขายรถยนต์ มีหลายแบบ ทั้งรถป้ายแดง รถมือสอง รถจักรยานยนต์ หรือ รถบรรทุก
.
เพราะวิธีคิดในแต่ละแบบนั้นแตกต่างกัน ดังนั้นเรื่องนี้ต้องชัด
.
2.ทำคลิปสำหรับลูกค้าของคุณ
การทำ Content ลงช่อง TikTok ต้องมีทั้งแบบ Mass และเฉพาะกลุ่ม / แต่คุณต้องอยู่ในจักรวาล ของรถยนต์ที่ลูกค้าคุณจะมาซื้อเท่านั้น
.
เรื่องไหนที่ลูกค้าสนใจ อยากถาม หรือ เรื่องที่เค้าไม่รู้มาก่อน คือคลิปดึงคนให้มาเจอช่องของเราได้ดีมาก
.
3.ลงทุนเวลากับการคิด หัวข้อทำคลิป
สิ่งที่หยุดคนดู ให้อยู่กับเราตั้งแต่ช่วงแรก คือหัวข้อที่ทำให้คนสงสัย อยากติดตามดูไปจนจบ การหาข้อมูล การเตรียมตัวก่อนลงมือทำ จึงสำคัญมาก
.
รวมทั้งการเขียนบท ที่วางแผนมาแล้วอย่างดี จะทำให้เราลดเวลาการถ่ายทำไปได้มาก
.
4.ใส่ใจกับอุปกรณ์ถ่ายทำ
ภาพต้องชัด เสียงต้องดัง ไม่มีใครใส่ใจกับคลิปคุณภาพไม่ดี ดังนั้นลงทุนกับเรื่องนี้ เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับตัวเอง เพราะวินาทีนี้ คู่แข่งเยอะมาก
.
หัดใช้อุปกรณ์ให้เป็น เพื่อความคล่องตัวในการทำงานจริง เพราะนี่คือ โอกาสที่จะทำให้คุณดัง!
.
5.ปรับเป็นบัญชีธุรกิจ เพื่อติดต่อง่าย
การทำช่อง TikTok ขายรถยนต์ ควรเป็นบัญชีธุรกิจ เพราะสามารถใส่ ข้อมูลเบอร์โทร แล้วโทรออกได้จริง รวมทั้ง แผนที่ Google Maps ที่กดแล้วโชว์แผนที่โชว์รูมได้
.
ความสามารถนี้ เป็นสิ่งที่ บัญชีบุคคลให้คุณไม่ได้ ดังนั้นต้องทำ!
.
6.ขายอย่างเดียว ไม่มีใครจำ
ถ้าอยากขายรถยนต์ ใน TikTok อย่าขายตั้งแต่วันแรก เพราะคนจะเลื่อนผ่านไปเลย
.
รถยนต์ เป็นสินค้าราคาสูง ความเชื่อมั่น และ การให้ข้อมูลที่ดี จะนำพาไปสู่การขายได้ในที่สุด
.
ดังนั้น ต้องทำให้คนเห็นหน้าของเราบ่อยๆ ได้เห็นความจริงใจ ได้เห็นความ Expert เสียก่อน ทำให้คนรัก คนชอบ ก่อนขายของ นี่คือเคล็ดลับที่ ช่องรถยนต์ ขายดีเขาทำกันครับ
7.เช็คสถิติคลิปสม่ำเสมอ
อย่าทำ content โดยไม่เช็คสถิติ ของคลิปเลย เพราะนี่คือ ข้อมูลที่ชัดที่สุด ในการบอกว่า คลิปของคุณมัน Work มั้ย
คลิปยอดวิวเยอะ ไม่ได้หมายความว่าเป็นคลิปที่ดี แต่คลิปที่ดี มักจะมียอดวิวเยอะเสมอ
และคลิปที่ดี ส่วนใหญ่ คือ คลิปที่คนดูจนจบ
.
ดังนั้น หมั่นเช็คเรื่องนี้เสมอ!
8. คลิปไหนที่คน Comment เยอะ เอาไปยิงแอด
ดัชนี บ่งชี้ความสำเร็จของ Content ใน TikTok คือ Comment ถ้ามีความเห็นมากมาย จากคนที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน แสดงว่า คลิปนี้กระทบใจ และ Impact มากพอให้คนมา Comment
.
ถ้า Comment แบบไม่ดราม่า ไม่ทำให้แบรนด์เราเสีย ให้เอาคลิปนี้ไปยิงแอดได้เลย
รับรองว่า การมองเห็นในช่องจะดีขึ้นกว่าเดิม 3 เท่า
.
ถ้าเป็นความรู้ ให้เอาไปยิงแอดเพิ่ม Follower ได้เลย เพราะความน่าเชื่อถือ จะแปรผันตรง กับจำนวนผู้ติดตาม
.
อย่าทำ content โดยไม่เช็คสถิติ ของคลิปเลย เพราะนี่คือ ข้อมูลที่ชัดที่สุด ในการบอกว่า คลิปของคุณมัน Work มั้ย
.
คลิปยอดวิวเยอะ ไม่ได้หมายความว่าเป็นคลิปที่ดี แต่คลิปที่ดี มักจะมียอดวิวเยอะเสมอ
และคลิปที่ดี ส่วนใหญ่ คือ คลิปที่คนดูจนจบ
.
ดังนั้น หมั่นเช็คเรื่องนี้เสมอ!
.
9. ยิงแอดหาลูกค้าให้ทุกรูปแบบ
ใน TikTok มีวัตุประสงค์ ให้ลูกค้าติดต่อเราได้หลายแบบ ทั้งการส่งข้อความ / การยิงแอดเข้า salepage / การยิงแอดแบบกรอกฟอร์ม เครื่องมือเหล่านี้ ดีมากๆ เลยนะครับ เพราะใช้งานง่าย
.
แต่อีก 1 อย่างที่สำคัญมาก คือ การสร้างการรับรู้ที่หลายคนละเลย อันนี้ต้องยิงด้วยนะครับ เพราะคนจะได้รู้จักเราเยอะๆ!
.
แต่ผลลัพธ์จะดี ต้องมาจากคลิปที่ดี ด้วยเป็นเรื่องสำคัญ! พี่นุกจึงบอกนักเรียนเสมอว่า
ก่อนเรียนยิงแอด ต้องเรียนสร้าง Content ที่ดีเสมอ
.
10. วัดผลให้เป็น
ยิงแอดแล้ว ต้องมาดู Report เสมอ เพื่อปรับปรุง และทำให้โฆษณานั้นดียิ่งขึ้นกว่าเดิม!! ถ้ายิงแอดแล้วไม่ดู Report ก็เหมือนโยนเงินทิ้งไปเปล่าๆ
.
และทั้งหมดนี้ คือแนวทาง ทำธุรกิจ ขายรถยนต์ เริ่มต้นใน TikTok ยังไง ให้ขายได้
.
ลองเอาไปปรับใช้กันได้เลย
.
ถ้ามาถึงบรรทัดนี้แล้วยัง ไม่เข้าใจ
พี่นุก มีคอร์สสอนสด TikTok Full Funnel ที่สอนทุกอย่าง เพื่อทำให้คุณเข้าใจ การใช้ TikTok เพื่อดันธุรกิจคลีนิกของคุณให้เติบโต และ มียอดขาย!
.
เหมาะกับเจ้าของธุรกิจโชว์รูมรถยนต์ ที่ต้องการดันยอด ต้องการใช้ TikTok เพื่อเพิ่มยอดขายรถยนต์
.
พี่นุก เคยไปสอน inhouse training ให้กับ บริษัทรถยนต์ชั้นนำ อย่าง อีซูซู มิตซูบิชิ โตโยต้า มาแล้ว 20 แห่ง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งแบบออนไลน์ และออนไซต์
.
สนใจสอบถามรายละเอียด ทักไลน์ @digtalnookacademy ได้เลยครับ
.
อย่าปล่อยให้ช้าไปกว่านี้ เพราะคำว่า”รู้งี้” มันเจ็บปวด!
แจกเทคนิค ใช้ AI ทำสคริปต์ TikTok แบบไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว
ในยุคที่คลิปสั้น ครองเมือง ไอเดียในการสร้างสรรค์ผลงาน จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา
แล้วมีเครื่องมืออะไรละ? ที่จะทำให้เราทำสคริปต์ออกมาได้อย่างโดนใจ
.
ท่ามกลางกระแสอันร้อนแรง ของ ChatGPT และ AI อื่นๆ
รู้มั้ยว่า ยังมีเครื่องมือฟรีๆ ที่ TikTok มีให้เราใช้งาน
.
เลือกหมวดธุรกิจได้
เลือกความยาวของสคริปต์ ว่าจะเป็นแบบ 15-30 วินาที หรือ 31-60 วินาที
.
ถ้าอยากรู้ ไปดูกันเลยครับ
.
เครื่องมือนี้ ก็คือ TikTok Script Generator นั่นเอง
.
เงื่อนไขเดียวในการใช้งานก็คือ เราต้อง Login ด้วยบัญชี TikTok profile หรือ บัญชี TikTok for Business (TikTok Ads)
.
การทำงานก็ไม่ยากเลยครับ
.
1.เข้าไปที่ https://ads.tiktok.com/business/creativecenter/script-generator/pc/en
2. เลือก Industry หรือ หมวดของธุรกิจของคุณ
3. ใส่ชื่อสินค้าลงไป
4. ใส่รายละเอียดสินค้าลงไป ความยาวไม่เกิน 1000 คาแรคเตอร์
5. กดเลือก Advance Setting เพื่อเลือก ความยาวของวิดีโอได้
6. กด “Generate Scripts” เพื่อสร้าง สคริปต์
.
สิ่งที่เราได้มา ก็คือ..
สคริปต์ ที่มีทั้ง บทพูด / บอกว่าควรใส่ตัวหนังสืออะไรบนหน้าจอ / บรรยาย ภาพ (Visual) ของ คลิปในช่วงนั้นๆ แบ่งเป็น Part เพื่อให้เรานำไปใช้งานได้จริงๆ
.
ถ้าไม่พอใจ ก็กด Generate Scripts ต่อไปได้ ว้าว!!
.
สรุปจากพี่นุก
พี่นุกมองว่า เป็นเครื่องมือดีๆ ที่ทาง TikTok มีให้เราใช้งานกันแบบฟรีๆ นะครับ
เพียงแต่ตอนนี้ เป็นเวอร์ชั่น สำหรับภาษาอังกฤษ อย่างเดียวเท่านั้น
แต่คิดว่า น่าจะมีเวอร์ชั่นภาษาไทย ในอนาคตแน่นอนครับ
.
พี่นุกลองทำแล้ว มองว่า มันใช่เลยนะ ช่วยลดเวลาคิดสคริปต์ ได้เยอะเลย
และจะเหมาะกับการทำคลิป โปรโมต หรือขายของนะครับ
.
ลองไปทำดูกันได้เลย!!
.
4 ข้อผิดพลาด ที่คนเปิด TikTok Shop ไม่มียอดขาย
ถ้าวันนี้ คุณเปิด TikTok Shop แล้ว
ทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยตัวเอง แล้วยังไม่มียอดขาย
.
ลองอ่านเรื่องนี้ แล้วคิดไปด้วย นะครับ
ถ้าพร้อมแล้ว เริ่มเลย
.
1. ทำช่องแล้ว แต่ยังไม่รู้ให้ใครติดตาม
นี่คือจุดเริ่มต้น ที่หลายคนผิดพลาด เวลาสร้างช่อง TikTok
คิดว่า จะทำยังไงก็ได้ เหมือนเรา มีเฟสส่วนตัว ที่อยากจะโพสต์อะไรก็ได้
.
ถ้าเป็นเมื่อ 3 ปีก่อน ความคิดนี้ไม่ผิด
แต่ตอนนี้ ช่องที่ประสบความสำเร็จ คือช่องที่ตั้งเป้าหมายไว้แล้ว
ว่า ทำมาเพื่อหารายได้อย่างไร?
ทำมันขึ้นมาเพื่อใคร
อยากให้ใครติดตาม
.
ปี 2023 การสร้างช่อง TikTok ขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจ เพื่อขายของ
จะต้องตั้งเป้าแบบชัดๆ ว่า
คนที่มาติดตาม คือ “เพศ วัย สนใจเรื่องอะไร”
.
เพราะมันจะเป็นผลต่อเนื่อง ในข้อ 2 ที่พี่นุกจะเล่าต่อ
.
2. ทำคลิปที่เราอยากบอก
ส่วนใหญ่ เวลาขายของ ก็มักจะใช้รูปแบบการนำเสนอเดิมๆ ที่เราเคยทำสำเร็จมาก่อนในเฟส
.
แค่โพสต์ๆ เขียนๆ ไป ใครอยากได้ ก็มาซื้อแล้วปิดการขาย
.
แต่ใน TikTok ไม่ใช่
.
เพราะ TikTok คือ Platform ที่ใช้ความสนใจของคนเป็นตัวนำทาง
.
ถ้าคุณทำคลิปที่คุณอยากบอก จะไม่มีใครสนใจ
ถ้าคุณทำคลิปที่คนสนใจ คนจะอยากดู
.
คำถามก็คือ “อะไรล่ะ ที่กลุ่มเป้าหมาย หรือ ลูกค้า ของชั้น สนใจ?”
.
คำตอบง่ายๆ ก็คือ
คำถามจากใน inbox หรือ การคุยกับลูกค้า
แค่คุณ ทำคลิป ตอบสิ่งที่เค้าสงสัยได้เคลียร์หมด
เท่านี้ ก็จะทำให้คุณมีคลิปดีๆ ไว้ในช่อง TikTok ได้แล้ว!
.
3.เอะอะก็ยิงแอด
ความผิดพลาดอีก อย่างของเจ้าของแบรนด์ หรือ เจ้าของธุรกิจ
ก็คือ จะยิงแอดก่อนเลย เพื่อเป็นทางลัด สู่ความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
.
โดยไม่ได้สนใจเรื่อง content แต่อย่างใด
.
พี่นุกเข้าใจนะว่า ต้องการความเร็ว
แต่สำหรับ TikTok นั้น ความสำเร็จกว่า 70% มีต้นกำเนิดมาจาก
Content ล้วนๆ
.
เพราะ Organic content ที่ดี ยังทำยอดขายได้
ถ้าเอามายิงแอดจะปังขนาดไหน?
.
ดังนั้น คลิป Organic ที่ดี สร้างยอดขายได้ เราจะเลือกมายิงแอดเลย
.
4.วัดผลให้เป็น
อีก 1 เรื่องที่พี่นุกเจอบ่อยๆ ก็คือ 90% ของคนยิงแอด
ยิงไปโดยไม่เข้าใจเรื่องของ Report หรือ อ่านไม่เป็น
.
ไม่ใช่เรื่องผิดนะครับที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้ แต่จะผิดถ้าเราไม่ใส่ เรื่องของการดู Report
.
มีค่าใน Report อยู่ 2 ตัว ที่พี่นุกอยากให้ใส่ใจ เป็นหลัก นั่นคือ CPA กับ ROAS
.
CPA คือ Cost Per Action
ถ้าเรายิงแอดเข้าตะกร้า หรือ ยิงแอด TikTok Shop ตัวเลขนี้คือ ต้นทุนต่อการซื้อใน 1 ออเดอร์นั่นเอง
.
หากค่านี้ น้อยกว่า กำไรที่เราคาดหวัง ถือว่า เป็นตัวเลขที่ดี โฆษณานี้ ไปต่อได้
.
ROAS คือ Return on Ad Spend
เป็นค่าที่คำนวณมาจาก การเอารายได้ ตั้ง หารด้วยค่าแอดทั้งหมด
ถ้าตัวเลขออกมา เกิน 3 หรือ 4 ขึ้นไป ถือว่าดี
.
ยิ่งมากกว่านั้น คือดีมากๆ เลยครับ
.
แต่ถ้า ROAS น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1 อันนี้ เราต้องปรับปรุงคลิปแล้วละนะ!
.
ถ้าใครมีปัญหา 1 ใน 4 ข้อที่พี่นุกเขียนมาให้อ่านกัน
.
พี่นุกคิดว่า ต้องมา Update กลยุทธ์ เพื่อเพิ่มยอดขายใน TikTok Shop แล้ว
.
และ ตอนนี้้ พี่นุกเปิดคอร์สสอนสด TikTok Commerce รอบล่าสุด
เดือน สิงหาคม 2566 นี้ครับ
.
รับจำนวนจำกัด เพราะต้องการดูแลให้ทั่วถึง
.
สนใจสมัคร หรือ ขอรายละเอียดเพิ่มเติม
ทักไลน์ @digitalnookacaemy
7 เคล็ดลับ ที่คนยิงแอดขายดีใน TikTok ไม่เคยบอกคุณ
รู้ไหมครับ 95% ของคนที่ยิงแอดใน TikTok แล้วไม่ประสบความสำเร็จเป็นเพราะ ดูคลิปสอนยิงแอดแล้วก็อัดเงินเลย
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือขาดทุนไม่ทำกำไร
พี่นุก เลยขอแชร์ 7 เคล็ดลับยิงแอดให้ขายดีใน TikTok แม้คุณจะไม่เคยยิงแอดมาก่อนเลยก็ตาม
1.ต้องทำให้ช่อง TikTok ชัดเจน
TikTok ไม่ใช่โซเชียลมีเดีย แต่เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ความสำคัญกับความสนใจของผู้ใช้งาน ( interested Based) คลิปที่เราดูช่องที่เราติดตาม เกือบทั้งหมดเป็นคนที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน
แต่เราชอบเขาเพราะ Content มันน่าสนใจดี และถ้า Content ในช่องของเราเป็นทิศทางเดียวกันทั้งหมดคนจะเลือกกดติดตามได้อย่างไม่ต้องคิด
ดังนั้น เมื่อเราจะสร้างช่อง TikTok ขึ้นมาจะต้องวางแผนไว้ตั้งแต่แรกว่ากลุ่มเป้าหมายของเราเป็นใคร
ถ้าต้องการขายสินค้าให้กลุ่มวัยรุ่น เนื้อหาหรือโทนการเล่าเรื่องในช่อง TikTok จะต้องเป็นสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายชื่นชอบ เช่นเพลง เพื่อน ความสัมพันธ์
เพราะถ้าเราไม่ได้วางแผนจะทำให้ช่องของเราไร้ทิศทางและจับใครไม่ได้เลย และติ๊กต๊อกก็จะงงว่าจะเอา Content ในช่องของเราไปส่งมอบให้กับใครดี
2.ทำคลิปให้คนรู้จัก และ รักเรา
เมื่อเรารู้แล้วว่าคนที่จะติดตามช่องของเราเป็นใคร ก็ให้เราโฟกัสหาเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของเรามานำเสนอในช่องอย่างสม่ำเสมอ
อย่าขายของตั้งแต่วันแรก แต่ต้องสร้างความผูกพันกับคนติดตาม ด้วยการทำเนื้อหาที่มีประโยชน์และน่าสนใจ
การเอาความรู้มาแชร์ในช่องก็เป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่คนอยากฟังมากกว่าคือสิ่งที่คนไม่เคยรู้มาก่อน
ยกตัวอย่างเช่นเป็นช่องขายยาสีฟัน ความรู้เรื่องการแปรงฟันให้ถูกวิธี จะน่าสนใจน้อยกว่า Content “ รู้หรือไม่ว่าสมัยก่อนเราเอาฉี่มาแปรงฟัน)
เนื้อหาแปลกๆใหม่ๆที่น่าสนใจจะทำให้คนมาติดตามเราอย่างรวดเร็ว
ควรแบ่งน้ำหนักของ Content ให้เป็นเรื่องน่าสนใจ 70% และขายของ 30%
3.คลิปขายของต้องเข้าใจง่าย ในเวลา 15 วินาที
คลิปวีดีโอขายของใน TikTok จะเน้น ให้เข้าใจง่าย จบได้ในเวลาสั้นๆ
และอย่าขึ้นต้นด้วยคำว่าสวัสดีครับเพราะเสียเวลามาก!
พี่นุก มีแนวทางให้แบบนี้ครับ
ถ้าสินค้านี้ ผู้เล่นในตลาดน้อย เช่นครีมทาใต้ตา (ช่วงแรกๆ คนยังขายน้อย) ให้ ขยี้ปัญหา แล้ว นำเสนอทางแก้ + ความโดดเด่น
ถ้าสินค้านี้ ผู้เล่นในตลาดมีเยอะมาก เช่น ยาสีฟัน เซรั่ม น้ำหอม ให้นำเสนอความโดดเด่น + เคลมสิ่งที่มากกว่าคนอื่นๆ เช่น ได้เยอะกว่า หอมติดทนนานกว่า คุ้มค่ากว่า
ถ้าคนรู้จักสินค้าแล้วเป็นอย่างดี ต้องให้ส่วนลดหรือข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้เรื่องราวให้เกิดการตัดสินใจ เช่น ผงซักฟอกแบรนด์ที่คนรู้จักอยู่แล้ว ถ้าราคาถูกกว่าปกติ คนก็พร้อมจะซื้อในทันที
4.คลิปไหนที่คำถามจากลูกค้าให้ตอบคอมเม้นด้วยวีดีโอเสมอ
การตอบลูกค้าที่มาคอมเมนต์ในคลิปของเรา ถ้าพิมพ์ตอบด้วยตัวหนังสือธรรมดา จะได้ประโยชน์น้อยกว่าการตอบคอมเม้นด้วยวีดีโอ
เพราะทุกครั้งที่เราคอมเม้นด้วยวีดีโอจะทำให้เราได้คลิปใหม่ลงในช่อง และคลิปเหล่านี้จะมี engagement ที่สูง เพราะเป็นการตอบคำถามแทนใจลูกค้าหลายๆคน
5.การตัดบางส่วนของไลฟ์ที่ขายดี มาลงในช่อง
ไลฟ์ไหนที่ขายดีให้ตัดบางช่วงบางตอนมาทำเป็นคลิปลงในช่อง จะทำให้ประหยัดเวลาในการสร้าง Content ขายอีกเยอะ
หลายคนก็มียอดขายจากคลิปที่ตัดมาจาก Live
แต่ควรตัดต่อใส่เอฟเฟคหรือตัวหนังสือเพิ่มเข้าไปเพื่อไม่ให้เหมือนต้นฉบับตอนที่ไลฟ์แบบเป๊ะๆ
ที่สำคัญห้ามไปเอาคลิปไลฟ์ของคนอื่นมาลงพอถือเป็นการเสียมารยาทและผิดกฎ TikTok
6.คลิปไหนที่ engagement ดี เอาไปยิงแอด
Engagement หรือการมีส่วนร่วม ใน TikTok ที่ดีที่สุด คือการ Comment ไม่ใช่จำนวน Like หรือการแชร์
โดยเฉพาะการ Comment ว่าสนใจ อยากได้ กดสั่งตรงไหน ขอรายละเอียด นี่คือตัวพิสูจน์ว่าคนสนใจดูคลิปของเราจนจบ
ให้เอาแนวทางของคลิปนี้ไปทำคลิปใหม่ในลักษณะเดิม แต่เปลี่ยนมุมกล้องและรายละเอียดให้แตกต่างกันไปหลายๆแบบ
แล้วนำไปยิงแอดได้เลย
7.วัดผลให้เป็น คลิปไหนที่ work ให้เพิ่มงบ
เมื่อยิงแอดไปแล้ว ต้องวัดผลให้เป็น อย่าดูที่ click view เพียงอย่างเดียว แต่ขอให้วัดค่า CPA หรือ Cost per action เพราะนี่คือ ต้นทุนการซื้อต่อออเดอร์ของเรา
ยกตัวอย่าง สินค้าราคา 300 บาท ต้นทุน 100 บาท ค่าแพค ค่ากล่อง 30 บาท กำไรที่เราต้องการ คือ 170 บาท
ถ้าเรายิงแอดแล้ว CPA = 50 บาท ถือว่ากำไร
ถ้าเรายิงแอดแล้ว CPA = 120 บาท ถือว่ากำไร
ถ้าเรายิงแอดแล้ว CPA = 200 บาท ถือว่าขาดทุน
เข้าใจมั้ยครับ?
และทั้งหมดนี้ ก็คือ 7 เคล็ดลับ ที่คนยิงแอดขายดีใน TikTok ไม่เคยบอกคุณ
เอาไปทำตามได้เลยนะครับ
แต่ถ้า อ่านแล้วยังไม่เข้าใจ ยังมองภาพไม่ออก
ตอนนี้ พี่นุกกำลังจะเปิดคลาสสอนสด TikTok Commerce รอบใหม่ เดือน สิงหาคม นี้
สอนตั้งแต่การปั้นช่อง ทำคลิป และ ยิงแอดให้ได้ผล
รับจำนวนจำกัด เพื่อให้ดูแลได้ทั่วถึง
สนใจสมัครทักไลน์ @digitalnookacademy ได้เลย
รวม 5 ข้อผิดพลาด ที่เจอบ่อย เวลาสมัคร TikTok Shop
เจ้าของแบรนด์ หรือ เจ้าของสินค้า ที่กำลังเริ่มต้นทำ TikTok Shop มักจะเจอปัญหานี้ เวลาสมัครใช้งาน TikTok Shop ทำให้เสียเวลากับขั้นตอนนี้ไปมาก
พี่นุกเลยรวบรวม 5 ข้อผิดพลาดที่เจอบ่อย มาให้อ่านกัน เพื่อจะได้ลดเวลา และได้เริ่มต้นลุยตลาดในช่อง TikTok ได้เร็วยิ่งขึ้นครับ
1.สมัคร TikTok Shop ผิดประเทศ
ปัญหาสุดคลาสสิคที่เจอนั่นคือเวลาสมัคร TikTok Shop แล้วดันไปเลือกประเทศอื่น ที่ไม่ใช่ประเทศไทย จึงทำให้ไปต่อไม่ได้
เพราะ TikTok Shop นั้นจะให้เลือกเปิดร้านค้าในประเทศที่เราอาศัยอยู่เท่านั้น
เพราะฉะนั้นก่อนสมัครจะต้องดูให้ดีเสมอว่าเป็นประเทศไทย หรือเอาง่ายๆก็ไปที่ลิงก์ https://seller-th.tiktok.com/
2. จำไม่ได้ว่าสมัครด้วยอะไร?
ปัญหาอีกเรื่องหนึ่งที่เจอบ่อยมากๆ นั่นคือจำไม่ได้ว่าตอนสมัคร tiktok Shop สมัครด้วยอีเมลเบอร์โทรหรือว่า account tiktok กันแน่
แม้มันจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่าพี่นุกเจอปัญหาแบบนี้เพียบ
เพื่อให้เราทำงานได้สะดวกขึ้นรูปแนะนำให้ใช้วิธีการสมัครเพราะจะได้ยืดหยุ่นเวลาทำงาน
ข้อแนะนำอีกอย่างก็คือ ทุกครั้งที่คุณสมัครให้จด อีเมลและ password ลงไปใน Google Sheet ที่คุณเข้าถึงได้ (ไม่แนะนำให้จดในสมุด เพราะมีโอกาสหาได้หรือคุณลืมไปทิ้งที่ไหนก็ไม่รู้)
3.ไม่เตรียมเอกสารให้พร้อมเสมอ
เพื่อให้การสมัครของเรานั้น จบได้อย่างรวดเร็ว พี่นุกอยากแนะนำให้เตรียมเอกสารไว้ตั้งแต่แรก เพราะการสมัครนั้นจะมีอยู่ 2 ประเภทนั่นคือบุคคลธรรมดากับบริษัท
ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาให้เตรียมบัตรประชาชน และหมายเลขบัญชีธนาคาร ที่ตรงกับบัตรประชาชน
ถ้าเป็นบริษัท ให้เตรียมเอกสารที่ออกโดยกรมพาณิชย์ และหมายเลขบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อบริษัท สแกนให้มันชัดเจนนะครับ
เพราะระบบของ TikTok Shop จะแปลงข้อความหรือตัวเลขในเอกสารที่เราอัพโหลดขึ้นไปกลายเป็นข้อมูลทันที
พี่นุกเห็นหลายคนเสียเวลามาก กับการถ่ายภาพแล้วอัพโหลดไม่ผ่านสักทีไม่อยากให้ทุกคนมาเสียเวลาแบบนี้ครับ
4.สมัครอีกชื่อแต่ให้ผู้รับผลประโยชน์เป็นอีกชื่อ
เมื่อเราขายของได้ เวลาจะถอนเงินออกมา ชื่อของคนสมัคร กับชื่อคนรับเงิน จะต้องเหมือนกันเสมอ ดังนั้น จะใช้ชื่อเป็นคนอื่นไม่ได้
เช่นสมัครด้วยชื่อป้า แต่ เอาบัญชี การถอนเงิน เป็นของตัวเอง แบบนี้คือ ไม่ได้นะครับ
ปัญหานี้ ส่วนใหญ่จะเกิดจาก การสร้างร้านแบบบุคคลธรรมดา จะสร้างได้แค่ 1 ร้าน ดังนั้นถ้าอยากสร้างร้านที่ 2 เลยไปเอาชื่อญาติ พี่น้องมาสมัคร แต่อยากให้เงินเข้ากระเป๋าของตัวเอง
ทางแก้ไขก็คือ ให้ใช้ Passport ของตัวเอง มาสมัครแทนครับ เป็นทางออกที่หลายๆคนตอนนี้ทำได้อยู่
5.ลืม password การชำระเงิน
ระบบของ TikTok Shop และมีความปลอดภัยมาก จึงอยากให้เรากรอก Password ทุกครั้งที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน และ Password นี้จะเป็นคนละตัวกับ Password หลักของเรา
มันจะเป็นตัวเลข 6 ตัวนะครับ ดังนั้นต้องจดเอาไว้เสมอครับ
และทั้งหมดนี้คือ 5 ข้อผิดพลาด เวลาสมัคร TikTok Shop ถ้ารู้แล้ว จะทำให้เราประหยัดเวลาตอนสมัครไปได้เยอะครับ
นี่เป็นเพียงก้าวแรกของ TikTok Shop เท่านั้น ยังมี เครื่องมืออื่นๆ ที่รอคุณมาลงมือทำอีกมากมาย ทั้งเรื่องของการทำคลิป ทำช่อง การทำระบบนายหน้า การยิงแอด
แจกเทคนิค เปิดการมองเห็นโพสต์ในเฟส 50,000 Reach แบบไม่ต้องยิงแอดเลยแม้แต่บาทเดียว
รู้ไหมครับปัญหาหลัก ชวนหมดกำลังใจ
ของคนทำ Content ใน Facebook คือทำเมื่อไหร่
ก็ไม่ค่อยมีใครเห็น Content ของเรา แม้จะตั้งใจเขียนยังไงก็ตาม
ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงที่ Content เราไม่ดี
แต่ติดอยู่ตรงที่ เฟส กำลังสนับสนุน Content ประเภทใหม่ที่เรายังไม่คุ้นชิน
วันนี้ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องของ เฟสบุ๊ค Reels นะครับ
แต่จะพูดถึงเทคนิคที่ผมได้ทำมาแล้วหลายครั้งและได้รับการมองเห็น 50,000 Reach ขึ้นไปทุกครั้ง
เทคนิคนี้คือ Short Message นั่นเอง
ถ้าให้เข้าใจง่ายๆก็เหมือนกับ การที่เราเขียนข้อความแบบสั้นๆ ในทวิตเตอร์ นั่นแหละครับ
หลายคน อาจจะไปลองทำแล้ว แต่คนไม่เห็นจะเยอะเหมือนที่พี่นุกบอกเลย
โพสต์นี้เลยจะแชร์เทคนิคที่ทำมาเองแล้วได้ผล มาให้อ่านกันครับ
1.ค้นหาความต้องการของลูกค้า
ถ้าเราทำเพจมาสักระยะ จะพบว่า Content ที่คนมีส่วนร่วมเยอะๆจะเป็น วิธีการแก้ปัญหา หรือ How to ที่เอาไปทำตามได้ง่ายๆเลย เช่น “รวมคำต้องห้าม ที่ใช้แล้วบัญชีปลิว” หรือ “เทคนิคหาไอเดียทำ Content 30 วัน ภายใน 5 นาที”
2.เขียนฮุกให้โดน
คนจะดูโพสต์ของเราจาก Hook ที่เขียนไว้ได้กระแทกใจ หรือสะดุดตา
และส่วนใหญ่จะเป็นวิธีการเขียนประเภทนี้
ย้อนแย้ง เช่นวิธีการผ่อนบ้านให้หมดโดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มแม้แต่บาทเดียว
ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น 3 เรื่องเข้าใจผิด ที่คนลดน้ำหนักเข้าใจว่ามันถูกมาตลอดชีวิต
มีตัวเลขมายืนยัน ยกตัวอย่างเช่น วิธีการสร้างรายได้วันละ 3,000 บาทโดยฉบับทำได้จริง
ถ้าเป็น How to ต้องใช้ตัวเลข 3 5 7 9
3.โพสต์ลงให้เป็นรูปแบบข้อความแล้วใส่ Background เป็นสี
ไม่แนะนำให้ทำเป็นรูปภาพเพราะว่าการมองเห็นจะตกลงไปมาก โดยเฉพาะภาพที่ออกแบบเอามาไว้อย่างดีคนจะมองเป็นโฆษณา
4.ซอยคอนเทนต์เป็นข้อๆ
เขียนเนื้อหาแล้วโพสต์ลงในคอมเม้นทีละข้อ วิธีการนี้เป็นการเลียนแบบการทำ Content ใน Twitter ที่เรียกกันว่า เธรด (จริงๆ เฟส ก็ทำเทรดนะแต่ตอนนี้เริ่มเงียบๆไปแล้ว)
5.ใส่ Call to action ลงไปไหน Content สุดท้าย
จะเขียนเนื้อหาทันทีก็อย่าลืมใส่ Call to action ให้คนทำอะไรบางอย่างหลังจากที่อ่านจบแล้ว เช่น กดตามเพจ หรือไปดูเนื้อหาอื่นๆต่อได้ในเว็บไซต์หรือ YouTube หรือเข้าไปใน tiktok
ถ้าต้องการขายของก็ให้แอดไลน์หรือส่งลิงค์ที่ขายสินค้าของเราได้เลย
6. ถ้า comment จากลูกค้าเยอะมากจนคนใหม่ๆไม่เห็นเนื้อหา
แนะนำให้เอา Content ทั้งหมดไปใส่ในเว็บไซต์ แล้วเอาลิงค์ มาแปะให้คนเข้าไปอ่านแบบสะดวกๆ
จะดีมากถ้าเว็บไซต์ของเรามีการติด pixel ต่างๆของแต่ละแพลตฟอร์มเอาไว้ เพราะเราสามารถนำมา retarget หาคนที่เคยเข้ามาอ่านเนื้อหา
7. ถ้าโพสต์นี้ มันไวรัล มากๆ ให้เอาไปยิงแอด
แนะนำให้เอาไปยิงแอดแบบ engagement หรือ Reach จะช่วยกระจายแบรนด์ให้เราดังยิ่งขึ้น ค่าโฆษณาจะถูกมากๆเลย
ทุกครั้งที่ใช้วิธีการนี้จะมีคนติดตามเพิ่มขึ้นมาโดยอัตโนมัติและเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ใช่เพราะว่าเนื้อหาที่เราทำขึ้นมานั้นตอบโจทย์เขาจริงๆ
สรุป
เฟสบุ๊คปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา อย่าฝืนยึดติด ใช้แต่ท่าเดิมๆ ที่เคยได้ผล แต่วันนี้มันพังแล้ว
ปรับตัวให้ทันกับยุคสมัยนะครับ แล้วเราจะอยู่รอด
สรุป 11 เทคนิค การใช้ Reels เพิ่มยอดขาย
สำหรับนักธุรกิจ ที่ต้องรีบทำตอนนี้
การสร้างรายได้จาก Reels กำลังมาแรง
เพราะทำคลิปปังๆ ก็มีโอกาสได้เงินหมื่น เงินแสน โหดมาก!!
คนเลยแห่มาทำคลิปกันเต็มเหนี่ยว
ด้วยการนำเสนอเรื่องราวที่ตัวเองถนัด มาลงกันเต็มฟีดไปหมด
แต่ในมุมของเจ้าของธุรกิจถ้าอยากจะกระโดดลงมาในสนามของ Reels
พี่นุกก็มองว่าดี เพราะหากมีรายได้
ก็จะทำให้เรามีเงินไปจ่ายค่าโฆษณาให้กับพี่มาร์ค (เงินหมุนไป เวียนมา)
พี่นุกเลยมีเทคนิค มาแนะนำให้กับเจ้าของธุรกิจ เอาไปทำ Reels แบบนี้ครับ
1.ถ้า Profile เฟสของเรา ไม่ซีเรียส ไม่เน้นความเป็นส่วนตัว ให้เปิด Public ได้เลย แล้วไปเปลี่ยนเป็น Mode มืออาชีพ (Professional)
2.ถ้าไม่อยากเอา Profile ตัวเอง นำเสนอคลิป Reels ให้ทำผ่านเพจแทน
3.การสร้างรายได้ผ่านคลิป Reels จะต้องมี ผู้ติดตามเกิน 5,000 คน มีคลิปมากกว่า 5 คลิปขึ้นไป และมีจำนวนนาทีการเล่นมากกว่า 60,000 นาทีขึ้นไป (เป็นไปได้ ถ้าคลิปของเรามันไวรัลมาก)
- โฟกัสการทำคลิป ให้เป็นแนวทางเดียวกัน เพราะเรา ตั้งใจ ทำ content เพื่อสร้าง แบรนด์ไปด้วยในตัว
5.Content ที่เราจะนำมาลงเป็น Reels สำหรับธุรกิจ ที่ได้ผลดีแนะนำแบบนี้
- โชว์เบื้องหลังการทำงานเช่นกว่าจะมาเป็นสินค้าตัวนี้ได้ต้องผ่านขั้นตอนอะไร ให้เห็นอยู่บนสายพานหรือกระบวนการในโรงงานที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
- รีวิวสินค้าให้ดูแบบง่ายๆอันนี้ก็จะเป็นสไตล์คลิปสั้นที่เราเคยใช้กันใน tiktok เช่นกันแกะกล่องให้ดูว่ามีอะไรอยู่ข้างไหนแล้วใช้งานอย่างไร
- ถ้าใครเป็นสินค้าเกี่ยวกับของกินให้เอาวิธีการทำมาโชว์เลย ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนก็คือการทำขนมเปี๊ยะไข่เค็ม เริ่มต้นตั้งแต่ปั่นแป้งใส่ใส้แล้วเอาไปอบ
- ถ้าเป็นธุรกิจประเภทบริการ ให้นำเสนอเนื้อหาหรือสถานการณ์ที่ลูกค้าอยู่ในคลิปนั้นด้วย ยกตัวอย่างเช่นเป็นร้านทำผม ก็เล่าเรื่องลูกค้ามาใช้บริการ แล้วสวยขึ้นอย่างไร
6.การตัดต่อจะต้องกระชับฉับไวอย่าเยิ่นเย้อ ให้ตัดสลับภาพ ครั้งละ 3 วินาที
7.ความยาวคลิปขอให้อยู่ที่ 15 ถึง 30 วินาที ถ้ายาวๆ ก็อย่าให้เกิน 90 วินาที มันจะไม่ใช่ Reels แล้ว
- คลิปไหนที่มี engagement ดีๆให้ไปยิงแอดต่อได้เลย
- ถ้าเป็นบัญชีโฆษณารุ่นใหม่ๆจะยิงแอด คลิป Reels นั้นได้เลยทันที
- แต่ถ้าเป็นเป็นบัญชีโฆษณารุ่นเก่าจะต้องทำการอัพโหลดคลิปแล้วเลือก placement เป็น Reels แทน หรือถ้าอยากให้มีก็ต้องรอให้ Update ถ้าไม่อยากรอ Update แนะนำให้ไปสร้างบัญชีโฆษณาใหม่เลย
- คลิปไหนที่เราทำแล้ว engagement ดีให้นำมายิงแอดต่อได้เลยโดยวางจุด Call To Action ไว้ใน Comment นั่นเอง
แต่การที่เราทำคลิปดีๆนั้นก็มักจะมีสัมภเวสีคอยมาใส่ลิงค์แปลกๆ ใน Comment อยู่เสมอ แนะนำให้เราตั้งค่าป้องกันไม่ให้เขาเอาลิงค์ใส่ลงไปได้ ต้องไปตั้งค่าที่เพจนะครับ
ความคิดเห็นส่วนตัว
การทำคลิป reels ถือว่าเป็นการกระตุ้นให้ตัวเราเองสร้างแบรนด์ อยู่ตลอดเวลาแบบสม่ำเสมอ
ของเรามีคลิปสั้นออกมาเยอะ ก็เอาไปใช้งานต่อได้อีกมากมายในแพลตฟอร์มต่างๆ
อย่ามองแต่เรื่องรายได้ที่เกิดขึ้น จาก Reels เป็นหลัก
แต่ให้มองเป็นเครื่องมือขยายแบรนด์ ที่กำลังมาแรง ณ ตอนนี้!!