ขายดีกว่าเดิม 10 เท่า ยิงแอดง่าย แจกไอเดีย 30 สินค้าขายดี ช่วงหน้าร้อน ด้วย AI
ขายดีกว่าเดิม 10 เท่า ยิงแอดง่าย เพราะรู้จักสินค้ากระแสก่อนกาล แจกไอเดีย 30 สินค้าขายดี ช่วงหน้าร้อน ด้วย AI
ถ้าเราอยากขายดี ในช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะ platform ไหนก็ตาม
คุณคิดว่า เราต้องให้ความสำคัญ กับอะไรก่อน?
.
สินค้า / Content / ยิงแอด
.
คำตอบ ก็คือ สินค้า
.
และสินค้าที่ทำให้เรา ขายดีได้ ต้องเป็นสินค้ากระแส นั่นเอง
ข้อดี คือ มันขายง่าย ขายเร็ว ข้อด้อย คือ ต้องรีบขายก่อนหมดกระแสความนิยม
.
จะดีกว่า มั้ย ถ้าเรารู้ว่า สินค้าตัวไหน ที่มันจะปังแบบสุดๆ ในช่วงเทศกาล หรือ ฤดูกาล
ถ้าเราขายของมาหลายปี ก็จะจบบันทึกเอาไว้ พอรอบใหม่มาถึง ก็จะเอามาขาย
แต่ถ้าเราไม่เคยเก็บสถิติ มาเลยล่ะ
.
การใช้ AI คือ ทางแก้ปัญหาที่ดีและเร็วที่สุด
พี่นุกเลยขอแชร์เทคนิค การใช้ AI เพื่อหาสินค้าขายดีมาให้อ่านแบบนี้ครับ
.
สินค้าแก้ปัญหายอดนิยมในช่วงหน้าร้อน 30 อย่าง พร้อมเหตุผลที่ต้องซื้อ มีดังนี้
1.พัดลมไอเย็น – ระบายความร้อนและทำให้อากาศเย็นสบาย เหมาะใช้ในบ้าน/สำนักงาน
2.เครื่องปรับอากาศ – ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น สร้างความสบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.ผ้าเช็ดตัวดูดซับน้ำดี – ดูดซับเหงื่อและความชื้นหลังอาบน้ำได้รวดเร็ว
4.เสื้อผ้ากิจกรรมกลางแจ้ง – ระบายอากาศ ดูดซับเหงื่อ เนื้อผ้าบางเบาสวมใส่สบาย
5.แว่นกันแดด – ป้องกันแสงแดดจ้าและรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อดวงตา
6.ครีมกันแดด – ป้องกันผิวจากแสงแดด รังสียูวี ลดเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง
7.ขวดน้ำพกพา – เก็บน้ำดื่มไว้ดับกระหายและชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสีย
8.พัดลมมือถือ – พัดลมพกพาสะดวก ช่วยระบายความร้อนขณะอยู่นอกบ้าน
9.ร่มกันแดด – ป้องกันแสงแดดและรังสียูวีเมื่ออยู่กลางแจ้ง
10.ผ้าเย็น – วัสดุพิเศษดูดความชื้น ช่วยระบายความร้อนและให้ความรู้สึกเย็นสบาย
11.กระติกน้ำร้อน/เย็น – เก็บรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่ม ดื่มน้ำเย็นสดชื่นตลอดวัน
12.เสื้อโปร่งสีอ่อน – ผ้าบางเบา ปล่อยอากาศถ่ายเท ดูดซับเหงื่อได้ดี
13.พัดลมตั้งพื้น/โต๊ะ – ระบายความร้อน กระจายลมเย็น ปรับทิศทางลมได้
14.รองเท้าแตะ/ผ้าใบ – สวมใส่สบาย ระบายอากาศ เหมาะใส่หน้าร้อน
15.หมวกกันแดด – ป้องกันแสงแดด รังสียูวี ที่ส่องถึงหน้าและศีรษะ
16.พับร้อนรถยนต์ – กรองแสงแดดและลดความร้อนภายในรถ
17.ตู้เย็นพกพาสำหรับรถ – เก็บรักษาความเย็นของอาหารและเครื่องดื่มขณะเดินทางไกล
18.พัดลมพกพาชาร์จได้ – ใช้งานได้ทั้งในบ้านและในรถ ระบายความร้อนสะดวก
19.ถุงน้ำแข็งเจลรักษาอุณหภูมิ – รักษาอุณหภูมิของสิ่งที่บรรจุ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม
20.ม่านกันแดด/บังแสง – กรองแสงแดด ป้องกันความร้อนเข้าบ้าน/สำนักงาน
21.เครื่องทำน้ำแข็ง – ผลิตน้ำแข็งเพียงพอสำหรับดื่มในช่วงร้อน
22.เครื่องดื่มเกลือแร่ – ชดเชยเกลือแร่ที่สูญเสียจากการออกกำลังกายหรือเหงื่อออกมาก
23.ถุงปัสสาวะชนิดทนร้อน – สามารถเก็บปัสสาวะไว้ได้ในที่ร้อนโดยไม่รั่วซึม
24.กระเป๋าและถุงผ้าอย่างดี – ป้องกันสิ่งของจากเหงื่อและความชื้นในหน้าร้อน
25.กางเกงขาสั้น/กระโปรงสั้น – ช่วยระบายอากาศและไม่ร้อนในช่วงอากาศร้อน
26.แพรกลางแจ้ง – ให้ร่มเงาจากแดด เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงร้อน
27.เตียงผ้าใบแบบสนาม – เบาสะดวกต่อการพกพา นอนได้แม้กลางแจ้ง
28.พลาสติกรองกันแดด – คลุมรถเพื่อกันแดดและป้องกันผนังจากความร้อน
29.ขี้ผึ้งป้องกันแมลง – ป้องกันแมลงรบกวนในช่วงกิจกรรมกลางแจ้ง
30.เสื่อรองนั่งกันร้อน – นั่งได้สบายแม้บนพื้นที่ร้อนจากแสงแดด
ไอเดียดีๆ แบบนี้ พี่นุกคิดออกมาได้ใน 10 วินาที ด้วยการใช้ Cluad.ai
และใช้คำสั่ง (Prompt) ที่ว่า “ขอสินค้าแก้ปัญหา ยอดนิยม ในช่วงหน้าร้อน 30 อย่าง พร้อม เหตุผลที่ต้องซื้อ”
ถ้าสังเกตให้ดีๆ จะพบว่า
คำพูด หรือ ชื่อสินค้า ประมาณ 5 ตัว มันฟังดูแปลกๆ ใช่มั้ยครับ
นั่นเป็นเพราะว่า พี่นุก ใช้ AI มาช่วยคิดนั่นเอง
ดังนั้น เมื่อเรา เจอสิ่งที่มันแปลก หรือ ประหลาด ก็มานั่งวิเคราะห์ ว่าใช่ หรือ ไม่ (ไม่ใช่ ก็เอาออก) เท่านั้นครับ
นี่เป็นเทคนิคง่ายๆ ในการใช้ AI เพื่อหาไอเดียสินค้า ยอดนิยมในช่วงหน้าร้าน ด้วยเวลาสั้นๆ
พอเรารู้ว่า สินค้า และ เหตุผลที่ต้องซื้อ ก็เอาข้อมูลนี้ ไปให้ claud.ai ช่วยทำเนื้อหาโพสต์ขายต่อได้อีก
ถ้าใครอยากรู้ พิมพ์คำว่า “อยากรู้”
พี่นุก จะมาโพสต์ เทคนิค “ทำโพสต์ขาย จากสินค้า” ให้อ่าน และเอาไปใช้งานกันได้เลย
Update สถิติ ทำการตลาดด้วยวิดีโอ ที่คุณต้องรู้ในปี 2022
Update สถิติ ทำการตลาดด้วยวิดีโอ ที่คุณต้องรู้ในปี 2022
.
การตลาดที่มาแรงมากๆ ณ ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นการทำการตลาดด้วยวิดีโอ โดยเฉพาะวิดีโอขนาดสั้น ที่นำร่องมาจาก TikTok ตอนนี้ Social Media ทุกตัว ก็ต้องขยับตัวไปตามๆกัน
.
และข้อมูลหลายๆ อย่างบ่งชี้ว่า มันสร้างการรับรู้ และสร้างยอดขายได้มากกว่าสื่อแบบเดิมหลายเท่า! (ในบ้านเรา มีคนที่ใช้ TikTok เพื่อทำธุรกิจแล้วเป็นจุดเปลี่ยนชีวิต มาแล้วหลายคน!)
.
ดังนั้น คนที่ทำธุรกิจที่ไม่อยากตกเทรนด์นี้ ต้องหันมาเข้าใจ กลยุทธการทำการตลาดด้วยวิดีโอ แล้วล่ะ
.
มาเริ่มต้นจากตัวเลขสถิติ เหล่านี้กันก่อนก็ได้ เพื่อจะได้วางแผนกันได้อย่างถูกต้อง ตั้งแต่ตอนนี้เลย!
.
ภาพรวม ของการตลาดวิดีโอ
.
69% ของคนดูวิดีโอ ชอบที่จะดูวิดีโอ ขนาดสั้นมากกว่า วิดีโอยาวๆ
.
87% ของนักการตลาด บอกว่า วิดีโอนั้นสร้าง ผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดี
.
ค่าเฉลี่ยในการชมวิดีโอผ่านออนไลน์ ในตอนนี้ คือ 18 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์
.
83% ของคนที่ร่วมทดสอบบอกว่า ถ้าหน้าเว็บไซต์ มีวิดีโอ พวกเขาจะอยู่ในหน้านั้น นานกว่าเดิม (อันนี้จริงครับ เพราะคนจะหยุดดูวิดีโอ ก่อนจะเปลี่ยนไปดูหน้าอื่นๆ)
.
85% ของคนที่ร่วมทำแบบทดสอบบอกว่า พวกเขาอยากจะเห็น วิดีโอ จากกลุ่มคนทำธุรกิจมากกว่านี้
.
8 ใน 10 บอกว่าวิดีโอนั้น มีผลกระทบในเรื่องของการขายโดยตรง
.
ตอนนี้ มีการใช้วิดีโอ ด้วยวัตถุประสงค์ในการตลาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2017 มี 63% และในปี 2021 นี้มีสูงถึง 86%
.
ต่อไป ลองมาดูสถิติ ของฝั่ง Youtube
เครือข่ายวิดีโอออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด ในโลก ณ ตอนนี้ มีตัวเลขอะไรที่น่าสนใจบ้าง มาดูกัน
.
มี Active User อยู่ที่ สองพันล้านคน ทั่วโลก
.
มีจำนวนการเข้าชมวิดีโอ 1 พันล้านชั่วโมงต่อวัน
.
มีการ Live ผ่านช่องทาง Youtube ตั้งแต่ปี 2020 เพิ่มขึ้นมากกว่า 45% ด้วยกัน
.
คนดูวิดีโอของ Youtube ผ่าน สมาร์ทโฟนถึง 70% ด้วยกัน ดังนั้น ภาพปกที่ออกมานั้น ควรจะทำให้โดดเด่น และอ่านออก แม้ดูผ่านมือถือ
.
70% ของคนที่ดูวิดีโอโฆษณาใน Youtube จะมีการซื้อสินค้าที่เขาเห็น
.
สถิติ ของแพลตฟอร์ม เฟสบุ๊ค
.
มี Active User อยู่ที่ 2.8 พันล้านคน ทั่วโลก
.
62% ของผู้ใช้งานเฟสบุ๊ค จะสนใจในแบรนด์มากยิ่งขึ้น หลังจากที่เห็นเนื้อหาที่ทำขึ้นใน เฟสบุ๊ค สตอรี่
.
ตัวเลขของคนดู เฟสบุ๊คไลฟ์ นั้นสูงขึ้นถึง 50% ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2020 (สำหรับเมืองไทย คนดู Live มากขึ้นเหมือนกัน ขึ้นกับ Content ที่นำเสนอ)
.
คนใช้งานเฟสบุ๊คใช้เวลา 34 นาทีต่อวัน
.
ในทุกๆ เดือน จะมีผู้ใช้งาน 1.2 พันล้านคนแวะเข้าไปดู เฟสบุ๊ควอทช์ (ถ้าเปิดดูเฟสบุ๊คในสมาร์ทโฟน เฟสบุ๊ควอทช์จะอยู่ในปุ่มด้านล่าง ใกล้กับปุ่มโฮม นี่หมายถึง เฟสบุ๊คให้ความสำคัญกับ Content วิดีโอ เป็นอย่างมาก)
.
สถิติ ของแพลตฟอร์ม TikTok
.
มี Active User อยู่ที่ 1 พันล้านคนทั่วโลก
.
60% ของคนใช้งาน TikTok มาจาก คน Gen Z (คนที่เกิดระหว่างปี 2540 – 2555)
.
วิดีโอแนวตั้งแบบเต็มจอ จะมีอัตราส่วนการชมตลอดทั้งคลิป สูงกว่าแบบอื่นๆ 25%
.
ผู้ใช้งาน TikTok จะใช้เวลา 46 นาที ต่อวัน ในการไถดูวิดีโอไปเรื่อยๆ (บางคนมากกว่านั้น จริงมั้ย?)
.
55% ของผู้ใช้งาน TikTok จะ Upload วิดีโอ ขึ้นไปโชว์ในช่องของตัวเอง (แสดงว่า คนทำ Content มีมากกว่า คนดูแล้วนะ)
.
สถิติ ของแพลตฟอร์ม Instagram
.
มี Active User อยู่ที่ 1 พันล้านคนทั่วโลก
.
80% ของคนดูชอบ วิดีโอ ประเภท How-to ใน Instagram
.
Story ที่สร้างขึ้นจากการถ่ายด้วย สมาร์ทโฟนธรรมดา ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า Story ที่ถ่ายจากสตูดิโอ
.
เวลาเฉลี่ยในการใช้งาน Instagram อยู่ที่ คนละ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน
.
90% ของผู้ใช้งาน Instagramนั้น จะติดตาม บัญชีธุรกิจ (นั่นหมายความว่า คนสนใจรับข้อมูลข่าวสารของแบรนด์ผ่านช่องทางนี้ แน่นอน)
.
และทั้งหมดนี้ ก็คือ ตัวเลขสถิติเกี่ยวกับการทำการตลาดด้วยวิดีโอ ที่คุณควรรู้ เพื่อนำไปวางกลยุทธในปี 2022 หรือให้ดี เริ่มจากตอนนี้ไปเลยก็ยิ่งดี
.
ที่มา
https://www.socialmediatoday.com/
.
สนใจเรื่องราว การตลาดใหม่ๆ ติดตามผมได้เลยนะครับ ในช่องทางต่อไปนี้!!
.
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
.
digitalnook #video #onlinemarketing
Google tag manager คืออะไร? เข้าใจได้ใน 3 นาที
Google tag manager คืออะไร? เข้าใจได้ใน 3 นาที
Google tag manager หรือ GTM
อาจจะเป็นคำใหม่ๆ ที่คนยิงแอด อาจจะได้ยินเป็นครั้งแรก
แล้วทำไมเราต้องรู้จัก
ถ้าวันนี้ การยิงแอดของคุณไม่ได้ใช้เซลเพล หรือเว็บไซต์
ไม่ต้องการได้ข้อมูลอื่นๆ มาวิเคราะห์ ในรายงานโฆษณา
“คุณข้ามไปได้เลย”
แต่สำหรับคนที่อยากยิงแอด ได้ละเอียด เพื่อปรับปรุง ให้ได้มากกว่าคู่แข่ง ต้องอ่าน
แต่ก่อนเข้าเรื่องนี้ อยากเล่าอะไรบางอย่างให้ฟังครับ
คุณเคยจัดบ้านมั้ยครับ
บางคน ก็ใช้บริการแบบ บิวท์อิน
บางคน ก็เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ มาจัดเอง
ไม่ว่าแบบไหน คุณก็ได้ห้องสวยๆ เหมือนกัน
แต่อยู่มาวันนึง คุณอยากจัดห้องใหม่หมด
ถ้าแบบ บิวท์อิน ถ้าคุณจะย้ายมันออกไป คุณต้องเรียกช่างมาจัดการ ต้องรอเวลา ต้องบอก
ถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์ ซื้อมาเอง
วันนี้ อยากย้าย ก็ย้ายได้เลย ไม่ต้องง้อใคร
ความสะดวกต่างกันใช่มั้ยครับ
ตอนนี้ กลับพูดถึงการยิงแอด ตาม funnel สมัยนี้ ไม่ว่าจะ facebook TikTok หรือ line ads platform เราล้วนใช้ การจับสถิติ จาก pixel ที่ติดไปกับเว็บไซต์ หรือเซลเพจเสมอ
การเอา pixel ของนักการตลาดส่วนใหญ่ ไม่ได้มาพร้อมกัน มันจะมาเป็นระลอกๆ
การติดโค้ดพวกนี้ ถ้าให้นักพัฒนา หรือโปรแกรมเมอร์ติดตั้ง สิ่งที่เจอบ่อยๆ ก็คือ จะมีเวลา มีคิวการทำงานเสมอ แม้จะเป็นการเพิ่มโค้ดอะไรลงไปนิดหน่อย ก็ตาม
นึกถึงการ บิวท์อิน ที่เล่าให้ฟังเมื่อกี้มั้ยครับ?
แล้วถ้าเราอยากติดโค้ดให้สะดวก และทำได้เองเหมือนกับ การย้ายเฟอร์นิเจอร์ ด้วยตัวเอง จะทำได้มั้ย
คำตอบคือได้ และ GTM คือผู้ช่วยครับ
GTM คือตัวกลางระหว่าง เว็บไซต์ กับ โค้ด tracking ต่างๆ ซึ่งผู้ดำเนินการติดตั้งโค้ดต่างๆ คือนักการตลาด หรือ คนยิงแอดเอง ไม่ต้องรบกวนทางนักพัฒนา
GTM เหมาะกับงานจัดการโค้ด ประเภท tracking ต่างๆ ได้ดี
ดังนั้น หากวันนี้ อยากยิงแอด แบบมีข้อมูลละเอียดกว่าเดิม ต้องหันมาใช้ GTM แล้วครับ
อันดับต่อไป ผมจะมา แนะนำว่าองค์ประกอบต่างๆ ของ GTM คืออะไรบ้าง
สำหรับวันนี้ น่าจะเข้าใจความหมายและประโยชน์ของ กันแล้วนะครับ
ในโอกาสต่อไป จะมา แชร์ รายละเอียดลึกๆ ของ GTM ให้อีก
หากใครสนใจ พิมพ์คำว่า “สนใจ” ไว้ในคอมเมนต์ ของโพสต์นี้ได้เลยนะครับ
สมการขายดี อ่านจบแล้วไปทำ รับรองปังแน่นอน
สมการขายดี อ่านจบแล้วไปทำ รับรองปังแน่นอน
เคยสงสัยมั้ย?
ว่าคนที่เค้า ทำธุรกิจ ปังๆ มียอดขายเยอะๆ?
เกิดขึ้น เพราะอะไร?
วันนี้ ผมเลยอยากจะแชร์ สมการหนึ่ง
ที่คนทำธุรกิจออนไลน์ควรรู้
เมื่อคุณอ่านเรื่องนี้ จนจบ
คุณจะได้เทคนิค เพื่อไปเพิ่มรายได้ ให้กับธุรกิจตัวเอง
พร้อมหรือยังครับ?
มาอ่านกันเลย
ผมขอเรียกสิ่งนี้ว่า สมการรายได้
มีสูตรแบบนี้ครับ
รายได้ = ลูกค้า X มูลค่าการซื้อ X ซื้อซ้ำ
ถ้าคุณอยากมีรายได้มากกว่าเดิม ทำอย่างไรได้บ้าง?
มีตัวแปรอยู่สามส่วนด้วยกัน…
ลองมาคิดกันหน่อยซิ
- ลูกค้า
วิธีการได้ลูกค้าใหม่ๆ มาอยู่กับเรา มีอะไรบ้าง
- ยิงแอดหาคนใหม่ๆ ไม่ว่าจะ เฟสบุ๊ค TikTok LINE Ads Platform Google Youtube เอาให้หมด เรียกสิ่งนี้ว่าช่องทาง แล้วกันครับ
- ถ้ามีรีวิวจากลูกค้าเก่า หรือมีคน Comment โพสต์ของเราเยอะๆ คนใหม่ๆ ก็ออยากจะลองซื้อของเรามากขึ้น สิ่งนี้เรียกว่า social Proof
- แจกตัวอย่างให้ลองใช้ฟรี หรือ ให้ซื้อในขนาดทดลอง ถ้าสนใจอยากได้ของจริง หรือ เต็มๆ ก็ซื้อได้เลย
- นำเสนอ หรือ แชร์สินค้าของเรา ไปในกลุ่มที่มีความสนใจ ในเรื่องนั้นๆ เช่น เฟสบุ๊คกลุ่ม หรือ ไลน์กลุ่ม หรือ เจรจากับคนที่มีลูกค้าอยู่ในมือเยอะๆ โดยไม่ต้องยิงแอด
สรุป
ในส่วนนี้ หลักการโดยทั่วไป คือการหาลูกค้าใหม่ และสิ่งที่ทำได้เร็วที่สุด คือการยิงแอด
- มูลค่าการซื้อ
การเพิ่มมูลค่าการซื้อ ของเรา ทำอย่างไรได้บ้าง…
- การ Upsell เพื่อเสนอขายสินค้าอื่นๆ หรือ เพิ่มจำนวน ให้ยอดขายต่อครั้งเพิ่มขึ้น
- เพิ่มราคา โดยให้คุณค่า หรือ มูลค่าในตัวสินค้าเดิมนั้น มากขึ้นไปอีก
- ให้ส่วนลด ในการซื้อสินค้าอื่นๆ โดยให้เฉพาะครั้งนี้ ครั้งเดียวเท่านั้น
สรุป
ส่วนนี้ ต้องอาศัยเทคนิคการปิดการขาย ของแอดมิน เพราะยอดออเดอร์ต่อครั้งจะมากจะน้อย ขึ้นกับแอดมินเลยทีเดียว
- ซื้อซ้ำ
การซื้อซ้ำ คือ อีกปัจจัย ที่สร้างรายได้ให้กับเรา.. มาดูสิว่า ทำอย่างไรได้บ้าง
- สินค้าดี มีความคุ้มค่า ใช้แล้วเห็นผล จนต้องกลับมาซื้อ
- สร้างความประทับใจ ที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า จนเขาต้องกลับมาหาเราอีกครั้ง และ อาจจะพาคนใหม่ๆ มาซื้อของเราด้วย
- ส่งโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า กระตุ้นเตือนไปหาอีกครั้ง เช่นการบรอดแคสต์ผ่าน LINE OA หรือ ยิงแอดกลับไปหา เป็นการรักษาความสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลา ไม่ให้ลืมกัน
สรุป
ส่วนนี้ เราอาศัยเรื่องการรักษา Relationship ไม่ว่าจะ พูดคุย ทักทาย อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้เน้นขายของอย่างเดียว
เห็นมั้ยครับ ว่า ถ้าอยากขายได้ และขายดี
มันไม่ได้มีแค่การยิงแอดอย่างเดียวเท่านั้น แต่ระบบแอดมิน และ การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน
กลับมาดูที่ธุรกิจของเราครับ..
วันนี้ เราโฟกัสที่ ตัวแปรในสมการ ตัวไหนอยู่?
แล้วตัวแปรที่เหลือ เรากำลังทำอะไรอยู่?
มาปรับกันดูครับ ทำแล้ว ได้ผลเป็นอย่างไร มา update ให้ฟังด้วยนะครับ
หลังจากที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว
หรือลองแล้ว เป็นอย่างไร comment มาใต้โพสต์นี้ได้เลยนะครับ
App Clubhouse คืออะไร แล้วทำไม คนถึงแห่มาเล่น?
Clubhouse คืออะไร แล้วทำไม คนถึงแห่มาเล่น?
ตอนนี้ ในแวดวงออนไลน์ Digital Marketing นักพัฒนา
กำลังเกิดกระแสใหม่ ที่มาแรงสุดๆ มีแต่คนพูดถึง Application ที่เรียกว่า “Club house”
จริงๆ ได้ยินมาสักพักแล้ว
แต่ตอนนี้ เทรนด์กำลังมาแรงยิ่งขึ้น จนต้องออกมาบอก มาเล่าให้ฟัง
ว่ามันคืออะไร?
Clubhouse คืออะไร
Club house คือ Application ที่สมาชิกของ App สามารถสร้างห้องขึ้นมา ให้คนออกมาพูด ออกมาแชร์เรื่องราว ดีๆ ที่น่าสนใจ หรือจะเป็นผู้ฟังอย่างเดียวก็ได้ โดยเข้าร่วมฟังได้สูงสุด 5,000 คนเท่านั้น
ไม่มีโชว์สไลด์ แบบ Zoom ไม่มีโชว์ฟรุ้งฟริ้ง มีแต่ภาพโปรไฟล์ปกติ
ฟังเสียงกันอย่างเดียวเท่านั้น
อ้อ คุยกันจบแล้ว ไม่มีบันทึกนะครับ
อารมณ์เหมือนไลฟ์จบลบเลย!!
Club house มีมาตั้งแต่เมื่อไร?
Application Club house เปิดให้บริการมาตั้งแต่ มีนาคม 2020
เริ่มมีกระแสมากขึ้น เมื่อมีคนดังระดับโลก อย่าง อีลอนมัสก์ เข้ามาเปิดประเด็นพูดถึงหุ้น Gamestop ในห้องสนทนา ทำให้คนหันสนใจกันมากขึ้้น
หรือแม้กระทั้ง พี่มาร์ค ซักเกอร์เบิร์กก็เข้ามาแจม ก็ยิ่งสร้างกระแสให้คนสนใจ Application Club house มากขึ้นไปอีก
แล้ว Club house เล่นยังไง
ถ้าจะเทียบให้ง่ายที่สุดกับ social media ตัวที่เรารู้จักกันในตอนนี้ ก็คือ ไลน์กลุ่ม หรือ Openchat นั่นเอง
จะมีห้อง ที่แยกตามความสนใจมากมาย ให้เข้าไปร่วมฟัง ซึ่งใน Club house จะเรียกว่า “Room”
คนเป็นเจ้าของห้อง จะเรียกว่า “Moderator” มีหน้าที่ จัดการดูแล ภาพรวมทั้งหมดของห้อง
ส่วนคนที่เข้าไปแจมในห้องที่เหลือ ก็คือ คนพูด และ คนฟัง
อยากจะเข้าไปฟังห้องไหน ก็เลือกได้ตามความต้องการ และที่สำคัญยัง
จะเล่น club house ต้องทำยังไงบ้าง
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับ คนใช้ แอนดรอยด์ ด้วยนะครับ
เพราะตอนนี้ Club house มีให้โหลดใช้งานเฉพาะ iOS เท่านั้น
(อยากเล่นก็ต้องไป ซื้อเครื่องใหม่ หรือ ยืมเครื่องคนใกล้ตัวมาก่อนนะ)
และสมัครเสร็จ ก็ยังไม่สามารถเล่นได้ทันทีนะ ต้องรอคนเชิญ invite เข้าไปเล่นก่อน ถึงจะเล่นได้
และสิทธิ์ ของสมาชิก แต่ละคน ก็จะเชิญได้ 2 สิทธิ์ เท่านั้น
ความเห็นส่วนตัว
ตอนนี้ผมโหลด Appllication สมัคร จองชื่อ Username ไปเรียบร้อยแล้ว
ยังเข้าไปเล่นไม่ได้ เพราะขาดคน invite (เศร้า)
ดูจากหัวข้อ และคนเข้าไปเล่น จากการแคปเจอร์หน้าจอ ก็ตื่นเต้นแล้วครับ
โอกาสที่จะได้สัมผัสคนดัง หรือ ไอดอล เพื่อฟังแนวคิด และ ทัศนคติ ดีๆ อยู่ไม่ไกลแล้ว
ถ้าได้เล่นจริงๆ วันไหนแล้ว
จะเอามาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะครับ
ส่วนใครที่เล่นมาแล้ว ฝาก comment กันหน่อยนะครับ
ว่าคิดเห็นอย่างไร 😉
หรือจะใจดี เชิญผมไปเล่นด้วย ผมใช้ User @digitalnook นะครับ 😉
……
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
เช็คกระแสความฮิต ธุรกิจ ครัวซอง ด้วย Google ดังแค่ไหน มาดูกัน
เช็คกระแสความฮิต ธุรกิจ ครัวซอง
ด้วย Google ดังแค่ไหน มาดูกัน
ทุกวันนี้
ต้องยอมรับว่า อยู่ดีๆ ครัวซอง ก็กลายเป็นขนมยอดฮิตขึ้นมา
มีเฟสบุ๊คกลุ่ม ชมรมคนรักครัวซอง ที่คนเข้ามาโพสต์ลายแทง
ร้านเด็ด ร้านดัง ซึ่งแต่ละร้านนั้น น่าไปมาก
เห็นแล้วกิเลสขึ้น!!
น่าสงสัยมั้ยครับ
ทั้งที่ไม่ใช่ของใหม่
และราคา ตอนนี้ ก็ไม่ได้ถูก
ทำไมกัน?
- ความอร่อย
- มีความหลากหลายมากขึ้น
- พรีเมียมมากขึ้น
เลยเข้าไปใน Google Trends ครับ
กระแสความนิยม นั้นเกิดมาตั้งแต่ตอนไหน?
ก็ได้ ข้อมูลมาดังนี้
คนค้นหาคำว่าครัวซอง มาตลอดเวลา แต่ไม่ได้มากมาย
แต่เริ่มหากันมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง ตุลาคม 2563 เป็นต้นมา
แล้วก็เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง เรียกว่ากราฟความนิยม ชันขึ้นภูเขาเลย
ส่วนใหญ่ อยู่ใน กรุงเทพ นนทบุรี เชียงใหม่ ลำพูน สมุทรปราการ
นี่แหละ คือแหล่งที่คนรักครัวซอง เขาออกตามล่าร้านกัน
ส่วนคำค้นหาที่มาแรง เกี่ยวกับครัวซอง ก็คือ
- ครัวซองพรานนก kenn ครัวซอง ครัวซอง James และ วิธีทำครัวซอง
*** ข้อสังเกต ***
เวลาคนค้นหาใน Google
คำว่า “ครัวซอง” และ ตามด้วย “พื้นที่”
หมายถึง ลูกค้ามองหาร้าน ครัวซองใกล้ตัว หรือ ในพื้นที่ ที่เขากำลังอยู่ ณ ตอนนั้น
ถ้าคุณทำร้านครัวซอง
นี่บ่งบอกถึง แบรนด์ครัวซอง ที่ทุกคน นิยมชมชอบ
ก็จริงดังที่ข้อมูลใน Google บอกแหละครับ
เพราะร้านนี้ คิวยากมาก ต้องจองก่อน ถึงจะได้กิน
และเทรนด์การต่อคิว จองครัวซอง ก็เป็นเรื่องปกติ ที่เหล่าคนรักครัวซอง ยอมรับได้
จะกินของอร่อย ต้องใจเย็นๆ
และที่น่าสนใจ อีกอย่าง คือ
คนไทย ค้นหาด้วยคำว่า ครัวซอง ที่แตกต่างกัน
“ครัวซ็อง” 22,000 ครั้งต่อเดือน
“ครัวซอง” 18,100 ครั้งต่อเดือน
“ครัวซองต์” 590 ครั้งต่อเดือน
ถ้าใครจะไปทำการตลาด ด้วย Youtube หรือ Google
การเลือกใช้คำตรงนี้ ก็สำคัญไม่ใช่น้อยนะครับ
เพราะเกิดไปทำ keyword ที่คนหาน้อย โอกาสเจอลูกค้า น้อยเช่นกัน
ส่วนรสชาติ ยอดนิยม คือ
ครัวซอง แฮมชีส 2,400 ครั้งต่อเดือน
ครัวซอง อัลมอนด์ 1,600 ครั้งต่อเดือน
กระแสฮิต ของครัวซอง ทำให้คนทำ Content แนวไลฟ์สไตล์
หันมาร่วมแจมกระแสนี้ ไม่ว่าจะเป็น
- รวม 25 ร้านครัวซองห้ามพลาด ในกทม.
- วิธีทำครัวซอง
*** ข้อสังเกต ***
การทำ Content ตามกระแส จะได้ Traffic ในระยะสั้นๆ
แต่ได้ Traffic ที่เยอะมากๆ เราเรียกว่า Topical Content
ซึ่งต่างจาก Evergreen Content ที่คน Search อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
ด้วยความฮิตขนาดนี้
ร้านครัวซองแบรนด์ใหม่ๆ จึงเกิดขึ้นมากมาย
ส่วนตัวแล้ว ผมชอบ ร้านเล็กๆ ที่ตั้งใจทำ มีเรื่องราว ที่มาที่ไป ของเชฟ
*** ข้อสังเกต ***
การใส่เรื่องราวให้กับสินค้าของเรา จะเพิ่มมูลค่าได้มากกว่าปกติ
วันนี้ ครัวซอง เป็นทะเลแดงเดือด
ที่มีผู้เล่นมากมาย เข้ามาฟาดฟัน ช่วงชิง กันแบบสุดเหวี่ยง
ร้านไหนที่ คงคุณภาพความอร่อย การบริการที่ดี
ก็จะยังมีลูกค้าต่อเนื่อง
เหมือนธุรกิจของเรา
ต่อให้ มีร้านใหม่ๆ แบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมา
ถ้าเรา ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ให้ประสบการณ์ที่ดีกับเขา
ลูกค้าก็จะจงรักภักดี ไม่หนีไปไหน
ไม่ต้องลดราคามาแข่งกัน
แม้วันที่ คู่แข่งเต็มท้องตลาด..
แล้วคุณล่ะ คิดเห็นอย่างไร กับเรื่องนี้
เขียนคอมเมนต์ กันมาได้นะครับ
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
สินค้า ดาวรุ่ง ดาวร่วง ช่วง Lock Down
สินค้า ดาวรุ่ง ดาวร่วง ช่วง Lock Down
มีอะไรบ้าง?
ตอนนี้ หลายๆ คน
ดาวรุ่ง สินค้า บริการ อะไร
ที่คนมองหาช่วง Lock Down
ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นข้อมูลเก่า ที่ผ่านมาเมื่อหลายเดือน
ซึ่งถ้ามี Lock Down จริงๆ
ข้อมูลนี้ คือข้อมูลที่เรานำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง…
ขอแบบสั้นๆ ง่ายๆ
ใครมีข้อมูลมากกว่านี้ มาช่วยกัน Update กันได้ลนะครับ
“บางคำ ผมตั้งใจเขียนผิด”
เพื่อป้องกัน การตรวจจับ ของระบบ นะครับ
ดาวรุ่ง!!
- หน้ากากแก้ว กันภัย
- น้ำสีฟ้า ที่ทำความสะอาด พิชิต เชื้อ
- เครื่องครัว
- บัตตาเลี่ยน
- ของกิน
- อาหารเสริม
- เครื่องนอน
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน
- คอร์สออนไลน์
ดาวร่วง!!
- รองเท้า
- กระเป๋าเดินทาง
- เสื้อผ้า
- ผลิตภัณฑ์บำรุงผม
- กล้องถ่ายภาพ
- อุปกรณ์ ปาร์ตี้
- กระเป๋าแฟชั่น
- สินค้าเกี่ยวกับงานแต่ง
- ชุดออกกำลังกาย
อย่างไร ก็ตาม
ไม่ว่าใคร ก็ไม่อยากให้เกิดภาวะ Lock Down ขึ้นมาอีกครั้งอย่างแน่นอน
เพราะมันคือ การปรับตัวอีกรอบหนึ่ง
ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะครับ
เอาไขควงไปตอกตะปู ทำได้เหมือนกัน แต่เหนื่อย
เอาไขควงไปตอกตะปู ทำได้เหมือนกัน แต่เหนื่อย
การทำโฆษณาก็เช่นกัน
เมื่อสองสามวันก่อน ได้พูดเรื่องของการยิงแอด ใน Platform ต่างๆ ที่นอกเหนือจาก Facebook ไม่ว่าจะเป็น Line Ads Platform หรือ TikTok
บางคนก็ยิงแอดใน TikTok แล้วได้
บางคนยิงแอดใน LINE Ads platform แล้วมีคนซื้อ
แต่มีอีกหลายคนที่ ยิงแล้วไม่ปัง ไม่เกิด
สาเหตุเพราะอะไร?
เพราะว่า Platform ไม่ดี ก็ไม่น่าใช่ เพราะถ้าไม่ดี แล้วทำไมมีคนปัง?
แต่อาจจะเป็นเพราะเลือกใช้เครื่องมือ ไม่ตรงประเภท ก็เป็นได้
เหมือนเราเอาไขควงไปตอกตะปู
มันก็ทำได้เหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ จะช้า หรือ ไม่ได้ดีเท่ากับการใช้ฆ้อน
ต้องตอกกี่ครั้ง ถึงได้ทำให้ตะปูมันทะลุลงไปในไม้
หรือหากทำได้ ก็ไม่ได้เป๊ะ เหมือนเราใช้ฆ้อนทุบลงไปจริงๆ
แต่เราใช้ไขควงเราไปทำงานทำอย่างอื่น ได้ดีกว่า
แล้วแบบนี้ ไขควงผิดมั้ยครับ ที่ตอกตะปูไม่ดี
หรือผิดตรงการเลือก เอาไขควงไปตอกตะปู
เช่นเดียวกับการทำโฆษณาครับ
social Media แต่ละตัว Platform แต่ละแบบ จะมีข้อดีในแบบของตัวเอง เพราะมีลักษณะเฉพาะ ที่ไม่เหมือนกัน
มันจะปัง ก็ต่อเมื่อเรา เลือกใช้งานให้ตรงประเภท
Google Ads เหมาะกับ สินค้า ที่คนมองหาแก้ปัญหา เช่น บริการอู่รถ สถานที่ หรือ ค้นหาด้วยชื่อ สินค้า + ราคา
TikTok เหมาะกับ สินค้า บริการกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน การดูแลตัวเอง รูปร่าง กลิ่น ผิวพรรณ
LINE เหมาะกับการใช้งานในประเทศ ที่ใช้งาน LINE ถ้าบ้านเค้าไม่ได้ใช้ เราก็อาจจะต้องเลือก Social Media ที่เขาใช้งานกันแทน
Google Business เหมาะกับการตลาด แบบ Location base ที่เข้ากันได้ดีกับการ ค้นหา
Youtube เหมาะกับการทำการตลาดแบบเชิงรับ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ดูรีวิวแล้วซื้อได้เลย เพราะรอคน search มาเจอ
ลองเลือกใช้งานกันนะครับ
ใช้ให้ถูก เลือกให้ดี
จะได้รู้ไปเสียทีว่า เรา กำลัง
ใช้ไขควง หรือ ฆ้อน ตอกตะปูกันอยู่?
3 Salepage ใช้งานฟรี ไม่จ่ายรายเดือน ก็ใช้ขายของได้
3 Salepage ใช้งานฟรี ไม่จ่ายรายเดือน ก็ใช้ขายของได้
การทำออนไลน์ในบ้านเราในยุคนี้
Salepage มีความสำคัญมากขึ้น
ประโยชน์ที่เห็นชัดๆ ตอนนี้้คือ
- ลดเวลาการถามของลูกค้า เพราะเขาได้อ่านมาก่อนเอง
- ถ้าลูกค้าตัดสินใจได้เลย สามารถทักแล้วมาซื้อ แบบไม่ต้องถาม
- เพิ่มความน่าเชื่อถือ และโน้มน้าวใจ ด้วยข้อมูลมากกว่า พื้นที่ใน Social Media
- การเปิดบัญชี TikTok Ads ก็ต้องมีเว็บไซต์ มาสมัครเปิด
การทำ sale page คือการลงทุน
มีค่าใช้จ่ายรายเดือน ถ้าลงทุนค่า salepage แล้วได้กำไรคืนกลับมา
ก็ถือว่าคุ้มค่า ในการใช้เงินนั้น
แต่ถ้าเราอยากจะเริ่มทำ salepage หรือเว็บไซต์
ที่ใช้งานฟรี ยังมีอยู่มั้ย?
คำตอบคือมี..
และนี่ก็คือ
“3 Sale page ใช้งานฟรี ไม่จ่ายรายเดือน ก็ใช้ขายของได้”
wix.com
ใช้งานง่าย จับลากวาง ลากวาง ก็ได้เว็บไซต์สวยๆ salepage สวยๆ มาใช้งานแล้ว
- ออกแบบง่ายสุด เพราะแบบจับ ลางวาง
- สมัครแล้วใช้งานได้เลยทันที
- มี templates ให้เลือกมากมาย
- ใช้งานได้ฟรี
- ถ้าต้องการติดตั้ง Pixel หรือ Analytics ต่างๆ ต้องซื้อโปรเพิ่ม
ปล.
ถ้าไม่เน้นเรื่อง SEO ต่างๆ และ อยากจะนำไปใช้ เพื่อโชว์ ให้ลูกค้าติดต่อ ผ่าน LINE / Messenger หรือ โทรมา อันนี้ ทำได้เลย
เชื่อมต่อ Domain เอาไว้ใช้งานเป็นของตัวเองเริ่มต้นที่ 240 บาท
(ถ้าเดือนละ 150 บาท จะมีโฆษณาของ wix มาโผล่ด้วย ดูไม่โปร)
- wordpress.com
ขวัญใจคนทำเว็บมายาวนาน เหมาะสำหรับคนรักการทำเว็บให้ติดอันดับ เพราะโครงสร้างเว็บนั้นช่วยให้ติด SEO ดี
- ไม่ต้องซื้อ Hosting เพิ่ม เพราะว่า มีให้บริการอยู่แล้ว
- ต่างจาก Worpdress ที่คนรับทำเว็บใช้งาน เพราะแบบนั้น คือ การนำโค้ดไปพัฒนาเอง
- สมัครใช้งานได้ฟรีเลย
- ออกแบบได้มี templates ให้ใช้
- ใช้งาน word เป็น ก็สามารถ ทำ WordPress ได้
- ถ้าจะติดตั้ง Analytics หรือ Pixel ต่างๆ ต้องติดตั้ง plugin เสียก่อน และ ต้องซื้อเพิ่ม
ปล.
WordPress น่าสนใจ เพราะโครงสร้างของเว็บ เหมาะสำหรับการทำ SEO
แต่ระยะยาว ถ้ามีความรู้ เรื่องการทำเว็บมากพอ อาจจะเลือก ติดตั้งเองผ่าน ผู้ให้บริการ Hosting เอง ค่าใช้จ่ายจะถูกกว่า
แต่ถ้าไม่อยากยุ่งยาก ก็ซื้อบริการของ wordpress.com ไป ด้วยการเชื่อมต่อ Domain
เริ่มต้นเดือนละ 130 บาท
- weebly.com
เว็บไซต์ฟรี ใช้งานง่ายๆ และติดตั้ง Pixel ได้เลย ง่ายๆ โดนใจแบบนี้ ต้องลองครับ
- ทำงานง่ายๆ เหมาะกับคนที่ไม่อยากวุ่นวายเรื่องการเขียนโค้ด
- มี templates มี Theme ให้เลือกใช้งานตามความต้องการ
- ติดตั้ง code Facebook Pixel ได้
- ติดตั้ง TikTok Pixel ได้
ปล.
ถ้าอยากมี Domain เป็นของตัวเองมาเชื่อมต่อ ก็จะมี
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นเดือนละ 240 บาท
สรุป
ถ้าเริ่มต้น สร้างความคุ้นเคย กับการใช้งาน salepage แนะนำให้ใช้งานได้เลยครับ
ส่วนระยะยาว ถ้าจะลงทุนจริงจัง ก็เสียค่าบริการเป็นรายเดือน
ผมว่าคุ้มค่าครับ
แต่ถ้าอยากได้บริการ salepage ของคนไทย ที่มีทีมงาน support ที่เป็นคนไทย
ใช้งานง่ายกว่า เหมาะกับคนไทย เมนูภาษาไทย
ขนาดผมทำ WordPress เป็น ยังเลือกใช้ salepage ทำแทน
เพราะทำได้เร็วง่าย 30 นาที ก็เสร็จแล้ว!!!
หากสนใจอยากรู้
จะขอแนะนำ ให้ในครั้งต่อไปครับ 😉
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook
5 เหตุผล ทำไมต้องใช้ salepage ขายของออนไลน์ ณ ตอนนี้
5 เหตุผล ทำไมต้องใช้ salepage ขายของออนไลน์ ณ ตอนนี้
2-3 ปีที่ผ่านมา คนที่เข้ามาในวงการขายของออนไลน์
จะคุ้นชินกับการซื้อขายผ่าน Facebook ผ่าน inbox ผ่านการแชท
ซึ่งถือว่าสะดวกสบายดี คนไทยชอบทัก ชอบคุยก่อนซื้อ
และระหว่างนั้นเอง คนไทยก็รู้จักการซื้อของผ่านเว็บมากขึ้น
เพราะการเข้ามาของ Marketplace เจ้าดังๆ อย่าง shopee lazada หรือ jdcentral
และซื้อโดยไม่ต้องทักถาม เห็นราคา เห็นรายละเอียด สนใจก็ซื้อเลย
จะดีกว่ามั้ยถ้าเรามีเครื่องมือ ที่ใกล้เคียงกับ Marketplace เหล่านี้?
สิ่งนี้เรียกว่า sale page นั่นเอง
ใครที่เคยรู้จักคำนี้ หรือ รู้จักแบบผ่านๆ
วันนี้ ผมจะขอแชร์ข้อมูลอะไรบางอย่าง เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ
ว่าจะใช้ หรือ ไม่ใช้ดี กับ..
“5 เหตุผล ทำไมต้องใช้ salepage ขายของออนไลน์ ณ ตอนนี้”
1.สร้างได้เร็วกว่าทำเว็บ
จริงๆ sale page คือ เว็บไซต์หน้าเดียว นั่นแหละ ที่ยกเอาเมนูต่างๆ ที่ไม่จำเป็นออก เหลือเพียงข้อมูลและปุ่มที่จำเป็น ดังนั้น จึงไม่เน้นความซับซ้อนในเรื่องระบบ และการเรียนรู้
sale page ปัจจุบัน เน้นเครื่องมือที่ง่าย สะดวกสบาย เพราะต้องการให้คนใช้งานง่ายที่สุด หากใครเคยพิมพ์ word มาก่อน การทำ sale page ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ถ้าเตรียมข้อมูลพร้อม ใช้เวลา 30 นาที ก็เสร็จพร้อมใช้งานได้แล้ว
2.เก็บสะสมพฤติกรรม สะสมลูกค้า จากหน้า salepage ได้
ข้อดีที่น่าสนใจสำหรับ sale page นั่นคือ การเก็บพฤติกรรมผู้ใช้งานที่เข้ามาในหน้านั้น โดยใช้ code บันทึกสถิติเข้ามาช่วย
ถ้าฝั่งของ Facebook กับ TikTok เราเรียกว่า Pixel (ส่วนใหญ่เก็บได้มากกว่า 1 pixel ต่อ 1 sale page)
ถ้าฝั่งของ Google เราเรียกว่า Google analytics
ส่วนการเก็บสะสมลูกค้าที่สนใจ มีความพร้อมซื้อสินค้าของเรา ก็คือ การติดปุ่มทักไลน์ เอาไว้ในหน้า sale page นั้นด้วย ซึ่งเป็น function พื้นฐานที่ salepage จะต้องมีอยู่แล้ว
3. Retargeting ข้าม platform ได้
เมื่อเราเก็บสะสมพฤติกรรมลูกค้าได้ เราก็สามารถจะ Retargeting ทำการตลาดหลอกหลอน ลูกค้าได้แล้ว
ยิ่งเราสะสม pixel ได้หลายแบบ ไม่ว่าจะ Facebook TikTok หรือ Google ก็สามารถทำการตลาด Ratargeting ได้ครบทุกช่องทาง
จะเข้ามาจากช่องทางไหน ก็จะโดน Raetargeting ไปทุกที่เลย ว่างั้น!!
4.ลดงาน admin แชทน้อยลง
Salepage ที่มีข้อมูล มากพอ ให้ลูกค้า ศึกษา ตัดสินใจ มาก่อนหน้า
จะช่วยลดลงาน admin ไปได้เยอะ ไม่ต้องทักถามให้เสียเวลา
หากเขาตัดสินใจจากข้อมูล การแก้ปัญหา รีวิวผู้ใช้งาน ข้อเสนอที่ดี มากพอ
ลูกค้าก็พร้อมทักไลน์ หรือ กดฟอร์มสั่งซื้อได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องถามแอดมินเพิ่ม
และตอนนี้ salepage ที่ให้บริการส่วนมาก จะเชื่อมโยงกับบริการ Line Notify หรือ การแจ้งเตือนทุกครั้งเมื่อมี Order เข้ามา จึงทำให้ลูกค้าได้รับการติดต่อที่รวดเร็ว ส่วนคุณและ แอดมินก็เห็นยอดเข้าทันที
แบบนี้ ดีมั้ยครับ?
5. เก็บฐานข้อมูลลงระบบ เป็นระเบียบ
ส่วนใหญ่คนขายของออนไลน์ โดยมาก ไม่ค่อยจะเก็บฐานข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ ถ้าลูกค้าซื้อของ กรอกฟอร์มผ่าน salepage ข้อมูล เบอร์โทร ชื่อ ที่อยู่ จะถูกเก็บเอาไว้ ให้คุณนำมาใช้งานได้
Salepage ส่วนใหญ่ สามารถดึงข้อมูลเหล่านี้ออกมาเป็นไฟล์ Excel เพื่อใช้งานได้อย่างมีระบบ
ดึงเอาเบอร์โทร ลูกค้ามาทำ Custom audience แล้วไปสร้างเป็น Look a like audience ได้อีก!
สรุป
นี่คือ “5 เหตุผล ทำไมต้องใช้ salepage ขายของออนไลน์ ณ ตอนนี้”
ลองไปคิด วิเคราะห์ เพิ่มเติมกันได้นะครับ 😉
หากแนวคิดนี้ เป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์
อยากให้ช่วยกันแชร์ ออกไปครับ ให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้พัฒนานำเสนอเนื้อหาให้ทุกคนได้อ่านกันอีก
หรือคิดต่างไปจากนี้ สามารถ comment กันมาได้นะครับ
เพื่อผมจะได้นำไปปรับปรุงการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้น
ติดตาม พี่นุก สอนรุกการตลาดออนไลน์ได้ในช่องต่อไปนี้
website : https://www.digitalnook.co/
medium : https://medium.com/digitalnook
facebook : https://www.facebook.com/digitalnook/
line : @digitalnook = http://bit.ly/digitalnookline
youtube : http://bit.ly/sub-digitalnook-yt
https://www.tiktok.com/@digitalnook